Quantcast
Channel: บ้านสวนพอเพียง - นครศรีธรรมราช
Viewing all 25 articles
Browse latest View live

ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอน ฉันรัก..เมืองคอน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

วันนี้มาพาไปปั่นจักรยานเที่ยวบ้านเกิดของอ้อยหวานค่ะ  นครศรีธรรมราช หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า เมืองคอน

อ้อยหวานออกจากหาดใหญ่ มาถึงนคร๚ เพื่อนเก่าคือ..ฟ้าฝนของปักษ์ใต้ก็ตามมาด้วย 2 อาทิตย์ที่อยู่นครศรี๚ ฝนไม่ตกอยู่ 2 วัน คือวันที่มาถึง และวันที่ออกจากนครศรี๚ ทำให้ไม่สามารถไปไหนไกลๆได้

 

ที่จริงแล้วอ้อยหวานชอบปั่นจักรยานกลางสายฝนมาก แต่เกรงใจแม่ แม่เป็นห่วง นี่แหละคนเป็นพ่อแม่ ไม่ว่าลูกจะอายุแค่ไหน ไปหัวหก ก้นขวิด ตีลังกา ที่ไหนๆ ในโลกมา แต่ที่บ้าน ลูกคือลูกที่พ่อแม่หวงห่วง

 

แต่อ้อยหวานก็ได้ออกไปปั่นจักรยานเกือบทุกเช้า และที่นี่คือ ที่ๆแวะมาบ่อยๆ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า วัดพระธาตุ

***************************************

  วัดพระมหาธาตุเมืองนคร ตั้งอยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มี พระบรมธาตุเมืองนครหรือ องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854ด้วยศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย (หลายคนเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า)

       ในปี พ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทำการสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม ต่อมาในปี พ.ศ. 1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน

ขอบคุณ ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์

 

พระอรหันต์ทั้ง 8 ยืนไหว้รอบพระธาตุ ทั้ง 8 ทิศ แทนความหมายของมรรคมีองค์ 8

 

 

ออกจากบ้านแต่เช้ามากๆ เพื่อที่จะถ่ายรูปองค์พระธาตุที่เปิดแสงไฟ กดถ่ายรูปนี้ปั๊บ ไฟดับปุ๊ป นี่ขนาดออกจากบ้านแต่เช้า แต่ไม่ทันได้รูปสวยๆสักที

 

ในเวลาสายๆของอีกวัน อ้อยหวานปั่นจักรยานไปที่วัดพระมหาธาตุ

 

เพื่อจะเก็บรูปรอบๆ บริเวณวัด

 

ระเบียงรอบองค์พระธาตุ กับพระพุทธรูปเก่าแก่

 

เช้าวันหนึ่งปั่นจักรยานลัดเลาะไปด้านหลังของวัดพระมหาธาตุ สวนทางกับตลาดเคลื่อนที่ ซึ่งอ้อยหวานได้ยินเสียงกระดิ่งเรียกลูกค้าแต่ไกล ในรถมีขายตั้งแต่ข้าวยำ ขนมขบเคี้ยว พืชผัก ของสดต่างๆ สะดวกซื้อจริงๆ

 

มาถึงตรงนี้ก็ต้องจอดนาน นั่งกินข้างหลังแม่ค้า ขนมอร่อย บรรยากาศเลิศ

 

ภาชนะที่ใช้สุดยอด โลกจะขอบคุณถ้าเราหันมาใช้วัสดุธรรมชาติกันมากขึ้น

 

ปั่นเลยมานิด ก็มาถึงถนนตัดใหม่เรียบทางรถไฟเก่า

อ้อยหวานเป็นเด็กเมืองคอน แต่ไปโตที่กรุงเทพ ไปเป็นเด็กวัดฝรั่งที่เขาเรียกว่าคอนแวนท์ตั้งแต่อายุน้อยๆ ไปกันเป็นกลุ่มใหญ่พร้อมลูกป้า ลูกอา เวลาโรงเรียนปิด เราก็นั่งรถไฟกลับบ้านกัน ออกจากกรุงเทพตอนบ่าย ถึงนครศรี๚ ในตอนเช้าของอีกวัน

ทุกครั้งที่รถไฟมาถึงตรงจุดนี้ หัวใจน้อยๆ พองโต

 ..อา..ถึงบ้านแล้ว..  น้ำตาเอ่อล้นท่วมสองตา

ยิ่งโตอ้อยหวานก็ยิ่งไกลบ้าน เดี๋ยวนี้จะกลับบ้านแต่ละครั้งต้องนั่งเครื่องบินถึง 4 ต่อ และไม่มีโอกาสได้นั่งรถไฟอีกเลย

วันนี้มายืนอยู่ตรงนี้ บนจักรยานแทนรถไฟ น้ำตาล้นท่วมสองตาอีกครั้ง คนที่ไม่เคยจากบ้านไปไกล จะไม่มีทางรู้หรอกว่าความรู้สึกอย่างนี้ ..เป็นอย่งไร

 

ปาดน้ำตาแล้วไปกันต่อค่ะ สวนยางแถบนี้ ช่วงนี้แน่นอนไม่มีการกรีดยาง เพราะฝนตกทุกวัน แถมบางแห่งอาจจะมีน้ำท่วมด้วย

 

นครศรี๚ เป็นเมืองหนึ่งที่น่าปั่นจักรยานเที่ยวมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างผสมผสานกัน นอกจากประเพณี วัฒนธรรมที่โดดเด่นแล้ว นครศรี๚ ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม

เขาหลวงสามารถมองเห็นได้ทุกที่จากนคร (ถ้าไม่มีตึกหรือบ้านบัง) อ้อยหวานเคยเขียนลงรายละเอียดไว้ในบล็อกเก่า   อ่านได้ที่นี่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/24809

 

เช้าๆอย่างนี้ มีผู้ร่วมทางเยอะ

 

ลุงนุ่งโสร่งปั่นจักรยานด้วย แน่มากๆ

สังเกตุไม้ตีหมา ต้องมีติดไว้ ของอ้อยหวานก็มีค่ะ ใช้ได้ดีทีเดียว แค่ยกไม้ขู่ แต่ละตัวก็เรียบร้อยเป็นผ้าพับ

 

ปั่นมาเจอเพิงนี้ หยุดค่ะหยุด อย่าพลาดเชียว

 

อาหารเช้า ข้าวยำปักษ์ใต้แสนอร่อย

 

บนโต๊ะก็มีขนมอีกมากมาย ให้เลือกหยิบกันเอง รักเธอ..ประเทศไทย ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่จะมีของกินอุดมสมบูรณ์ มีให้เลือกมากมายหลายแบบ อร่อย ราคาถูก กินจนอิ่ม ข้าวยำ+กาแฟเย็น+ขนมโค 30 บาท อยากลองทุกๆอย่างจัง แต่ยังมีของกินอีกหลายอย่างรออยู่ที่บ้าน ทุกๆเช้าแม่จะออกไปเดินเล่น แล้วซื้อติดมือมาตั้งรอคนปั่นจักรยาน

 

.. ขอขอบคุณเพื่อนทุกๆคนมากค่ะ ที่ติดตามอ่าน โดยเฉพาะที่ได้เขียนคอมเม้นท์ไว้ อ้อยหวานอ่านทุกคอมเม้นท์ เป็นสิ่งที่เป็นกำลังขับเคลื่อน และเป็นกำลังใจให้ อ้อยหวานเขียนบล็อก

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ปั่นจักรยานเที่ยวนครศรีธรรมราช ในตอนต่อไป

 

อ่านปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27671

http://www.bansuanporpeang.com/node/27682

http://www.bansuanporpeang.com/node/27692

 

 

อ่านรายละเอียดของ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารได้ที่นี่ค่ะ

 

http://m-culture.in.th/album/75290/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3_%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A

 

http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9560000075973

 

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/nakhonsithammarat/watpratad.html

 

http://tamlmonline.blogspot.ca/2012/10/blog-post_3784.html

 

   

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

 

 

 


ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอน สวยจัง..เมืองคอน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

อ้อยหวานมาพาไปปั่นจักรยานเที่ยว  นครศรีธรรมราช กันต่อค่ะ

เช้าวันนี้ออกกันแต่เช้าหน่อย ต้องปั่นอย่างเร่งรีบสุดๆ ไม่ได้เก็บรูปข้างทางไว้เลย เพราะกลัวไม่ทันตะวัน

12 กิโลเมตรจากตัวเมืองนครศรี๚ สู่จุดหมายปลายทางคือ ปากนคร

 

ทำเวลาเฉียดฉิวมาก ตะวันขึ้นสูงไปพอควร

ทุกครั้งที่กลับบ้าน อ้อยหวานต้องหาเวลามาปากนคร ชอบมาที่นี่ เพราะ วิวสวย เงียบสงบ ปากนคร ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ไม่มีชายหาด แต่ปากนครมีอะไรๆให้ดูมากมาย

 

สุดถนนปากนคร จะมีศาลารูปตัวทียื่นออกไปในทะเล ศาลาสีขาวคือศาลาหลวงปู่ทวด

 

ทุกครั้งที่แวะมา ศาลาว่างเปล่าไร้ผู้คน คงอาจจะเป็นเพราะ ยังเช้าเกินไป อ้อยหวานกลับชอบมากๆ ใช้เวลาอยู่นาน เดินชมวิว ถ่ายรูป ดูน้ำดูฟ้า

 

แต่ในทะเลไม่เงียบเหงาเลย มีเรือประมงวิ่งเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา

 

จากปากนคร สามารถมองเห็น แหลมตะลุมพุก แต่ไกล

****************************

แหลมตะลุมพุก เป็นสถานที่ซึ่งอยู่บริเวณตอนบนของอำเภอปากพนัง ด้านที่ติดกับทะเลด้านใน (อ่าวนครฯ) มีประชากรตั้งถิ่นฐานอยู่ ส่วนด้านนอกที่ติดกับอ่าวไทยเป็นหาดทรายและมีต้นสนขึ้นเป็นแนวยาว  เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์มหาวาตภัยครั้งใหญ่จากพายุโซนร้อนแฮร์เรียตพัดถล่มแหลมตะลุมพุก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2505 ระดับน้ำสูง 5 เมตร กำลังลม 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คลื่นสูง 6.8 เมตร มีชาวแหลมตะลุมพุกสูญหายกว่า 1,300 คน ลักษณะของชายหาดปากพนังเป็นชายหาดยาวไปตามชายฝั่งทะเล มีแหลมตะลุมพุกเป็นแหลมทรายรูปจันทร์เสี้ยวยื่นไปในอ่าวไทย สามารถขับรถไปจนถึงปลายแหลมได้ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารทะเลบริการในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย

 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 (นครศรีธรรมราช-ปากพนัง) มีทางแยกเข้าสู่แหลมตะลุมพุก ประมาณ 16 กิโลเมตร

ขอบคุณ ข้อมูลจาก การท่องเที่ยวไทย

 

ยามเช้าๆแบบนี้ การได้มานั่งชมวิถีชีวิตของผู้คน ...

 

... นั่งมองขอบน้ำจรดปลายฟ้า

 

ท่ามกลางความเงียบสงบ

 

 ช่างมีความสุขจริงๆ...

 

เวลาไปปั่นจักรยานเที่ยวที่ไหนๆ กิจกรรมโปรดของอ้อยหวาน คือ สอดสายตาแอบดูบ้านช่อง ดูวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คน ยามเช้าเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด

 

ใช้เวลาที่ปากนครจนสาย ได้เวลากลับบ้าน ถนนสายนี้มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่มีไหล่ทาง สายๆ รถเยอะพอสมควร กำไรของจักรยานพับได้อยู่นี่เอง สะดวกจริงๆ

ใครกำลังหาจักรยานไว้ใช้ อ้อยหวานขอแนะนำเลยค่ะ จักรยานพับได้ คันนี้ซื้อที่ภูเก็ต ส่วนคันที่ใช้ที่แคนนาดา ก็เป็นจักรยานพับได้ คันเล็ก ล้อเล็ก แต่ประสิทธิภาพเท่าเทียมกับจักรยานคันใหญ่ทุกประการ

 

มีอยู่เช้าหนึ่งปั่นมาเจอขบวนนี้ แต่รับองว่าปั่นจักรยานเที่ยวสนุกกว่าเยอะ อยากให้มีสักวันที่ท้องถนนปิดสำหรับรถยนต์ แล้วให้เด็กๆ และผู้คนเอาจักรยานมาปั่นเที่ยวกัน คงมีสักวัน

 

แต่วันนี้ตามอ้อยหวานมาปั่นเที่ยวก่อน รอบๆ เมืองคอน ยังมีบ้านทรงไทยเก่าให้ชม

 

ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ มีผู้คนอาศัยอยู่จริง

 

และที่เป็นพิพิธภัณฑ์

กุฏิทรงไทย หรือ กุฏิร้อยปี ตั้งอยู่ในวัดวังตะวันตก ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง เป็นกุฏิไม้ทรงไทยเรือนเครื่องสับ 3 หลัง มีหลังคาจั่วแต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกัน ตามประตู หน้าต่างและช่องลม ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนคร 

ขอบคุณ ข้อมูลจาก การท่องเที่ยวไทย

 

บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช สร้างในสมัรัชกาลที่5 ...ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ปี2556 จากสมาคมสถาปนิกสยาม

อ่านประวัติบ้านท่านขุนได้ที่นี่

https://th-th.facebook.com/Baantankhun

 

อ้อยหวานชอบรูปปั้นที่ตั้งอยู่ริมบันได

ไม่พูด.. ไม่ดู.. ไม่ฟัง..สิ่งที่ไม่ดี แล้วชีวิตก็จะดีเอง

 

ส่วนบ้านแบบนี้ก็ยังมีให้ดู แต่ไม่รู้ว่าจะคงอยู่อีกนานเท่าไร

 

เพื่อโลกนี้สีเขืยว

อ้อยหวานอยากเชิญชวนให้มาใช้จักรยานกันเถิด ไม่ว่าจะปั่นเที่ยว หรือปั่นใช้งาน

 

มาช่วยกันอนุรักษ์ สิ่งดีๆที่กำลังจะสูญหาย  สามล้อไทย

 

แต่ในต่างประเทศกลับเป็นที่นิยม  สามล้อถีบ เมืองโตรอนโต แคนนาดา

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia, the free encyclopedia

 

สามล้อถีบ เมืองมอสโก, รัสเซีย

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia, the free encyclopedia

 

สามล้อถีบ เมืองเม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia, the free encyclopedia

 

สามล้อถีบ เมืองอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์

ขอบคุณรูปภาพจาก

http://www.ski-epic.com/amsterdam_bicycles/

 

สามล้อถีบ เมืองลอนดอน อังกฤษ

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia, the free encyclopedia

 


ส่วนคันนี้..สามล้อถีบ เมืองคอน ประเทศไทย

ถ้าเจอก็อย่าลืมอุหนุนกัน


โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ในตอนต่อไป

อ่านปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27671

http://www.bansuanporpeang.com/node/27682

http://www.bansuanporpeang.com/node/27692

http://www.bansuanporpeang.com/node/27697

 

 

อ่านรายละเอียด ท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ที่นี่ค่ะ

 

http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/nakornsritammarat/

 

http://thai.tourismthailand.org/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94/%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดั่งหนึ่งเม็ดทราย

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

"การเดินทางท่องเที่ยว ทำให้เรารู้สึกเล็กลง เพราะเราได้เรียนรู้ว่า พื้นที่ที่เรายืนอยู่ มันเป็นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งของโลก”

 “Travel makes one modest. You see what a tiny place you occupy in the world.” – ― Gustave Flaubert

ยิ่งเดินทางท่องเที่ยวไปกว้างไกลเท่าไร เรายิ่งเรียนรู้ว่าเรานั้นเล็กกระจ้อยร่อย การเดินทางท่องเที่ยวทำให้เราเรียนรู้โลก  อย่างที่บางคนพูดว่า ‘เปิดหู เปิดตา’ อ้อยหวานขอเสริมอีกนิดคือ ‘เปิดใจ’ ยิ่งท่องไปยิ่งทำให้รู้ว่า ตัวเรานั้นไม่ใหญ่เลย เปรียบดั่งเม็ดทรายบนชายหาด..

 

เช้านี้เราออกกันสายหน่อย เพราะอยากจะเก็บภาพที่ระลึกภาพนี้ อากาศริมทะเลยามเช้าสดใส ทะเลมีคลื่นน้อยๆ ไม่ซัดโถมเข้าฝั่งอย่างเมื่อวานนี้

 

ปั่นไปได้หน่อยก็มาเจอหาดสวย แต่.. บางคนก็ยังคิดว่าตัวเองใหญ่ ถือว่าตนเป็นเจ้าของเม็ดทรายทั้งหาด ติดป้ายไว้ตลอดแนว ว่านี่คือหาดส่วนตัว ตกแต่ง ทำความสะอาดไว้อย่างดี แต่ดูเหมือนสาวสวยที่แล้งน้ำใจ

 

ดูดิป้ายหาดส่วนตัวติดไว้ตลอดแนว ไม่รู้ว่ามาเล่นน้ำทะเลตรงนั้นได้ป่าว ยังดีที่ไม่ปิดถนนไปเสียด้วย

 

เวลาปั่นจักรยานเที่ยวเหลือน้อยเต็มที เราเลยต้องเลือกเส้นทางที่เราอยากปั่นจริงๆ เส้นทางของวันนี้ ถนนเลียบชายฝั่งทะเลหาดบ้านกรูด-บางสะพาน มีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร จากบางสะพานเราก็ต้องมุ่งตรงไปที่ถนนเพชรเกษม ซึ่งมีระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เพื่อโบกรถเมล์ไปยังสุราษฎร์ธานี

 

ถนนเลียบชายฝั่งทะเลหาดบ้านกรูด-บางสะพานนั้นเรืองชื่อในหมู่นักปั่นต่างชาติ ว่าเป็นถนนที่สวยและเงียบสงบ แล้วก็จริงอย่างที่เขาลือกัน

 

โค้งแล้วโค้งเล่า อ้อยหวานต้องหยุดถ่ายรูปไปตลอดทาง ผู้ร่วมทางก็แสนดีจอดรอตลอดทาง วิวสวย บรรยากาศดี ดอกไม้ริมทางพรึบพรับ

 

พวงชมพูออกดอกดกพราวทั้งๆ ที่ช่วงนั้นอากาศแล้งมาก แล้วไม่ใช่ต้นเดียวนะ มีอยู่หลายหย่อมเลยละ

 

บางช่วงก็เรียงรายด้วยต้นสน ช่วงนี้ชายหาดและทะเลจะอยู่ต่ำกว่าถนน

 

บางช่วงก็เปิดกว้าง มองเห็นทะเลสุดสายตา ดูเหมือนว่าน้ำกับฟ้าบรรจบกัน

 

บางช่วงก็ได้เห็น (และได้กลิ่น) วิถีชีวิตของท้องถิ่น

 

จากบางสะพานเราปั่นบนถนนทางหลวงซึ่งมีรถไม่มากนัก เพื่อไปโบกรถที่ถนนเพชรเกษม เราต้องต่อรถถึงสองต่อ ไปถึงสุราษฎร์ธานีเกือบค่ำ คราวนี้เราเลือกรถคันใหญ่หน่อย จักรยานเลยมีที่นั่งของตัวเอง

 

เส้นทางที่เราอยากปั่นจักรยานเที่ยวอีกแห่งคือ เส้นทางระหว่างดอนสัก (สุราษฎร์ธานี) กับขนอม (นครศรีธรรมราช) วันรุ่งขึ้นเราจึงขนจักรยานขึ้นรถเมล์อีกครั้ง ไปที่เริ่มปั่นที่เขตรอยต่อระหว่างดอนสักกับขนอม

 

แล้วปั่นไปตามถนนสายเล็กๆ ที่มีรถน้อย คดโค้ง ขึ้นลงเนิน โอบล้อมไปด้วยเทือกเขา อุดมไปด้วยไร่สวนนานาชนิด

 

มองไปทางไหนก็เขียวขจี เราจึงแวะถ่ายรูปกันบ่อย เจอสวนยาง สวนปาล์ม หรือสวนอะไร ก็แวะไปเรื่อยๆ

 

เจอไร่แตงกวาก็จอดอีก กำลังแพคใส่ถุงกันอยู่ เห็นบอกว่าแต่ละวันเก็บขายได้หลายกิโล

 

จอดทุกที่ที่ใจอยาก วัดจีนที่อำเภอขนอม สีสันสดใสมาก

 

เราแวะค้างคืนกันที่อ่าวขนอม

**********

อ่าวขนอม เป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอ่าวต่างๆ ของอำเภอขนอม อยู่ห่างจากตัวอำเภอ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 4014 แยกจากทางหลวงสาย 401 ประมาณ 17 กิโลเมตร ผ่านตลาดสุขาภิบาลขนอมประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นจึงเลี้ยวขวาไปตามตัวหาดขนอม หาดขนอมนั้นเป็นชายฝั่งทะเลที่สวยงามยาวติดต่อกัน ซึ่งประกอบไปด้วย

หาดในเพลา เป็นหาดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอขนอม และเป็นจุดที่เด่นที่สุดในการท่องเที่ยว ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งขนานกับแนวภูเขา ทัศนียภาพโดยรอบมีความเป็นธรรมชาติที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ บริเวณหาดจะมีที่พัก ร้านอาหาร บริการนักท่องเที่ยว

หาดหน้าด่าน ลักษณะหาดเป็นแนวยาว ทรายขาว มีสวนมะพร้าวโดยรอบ สถานที่เงียบสงบสามารถมองทิวทัศน์ท้องทะเลสีครามสวยงาม

หาดในแปรด ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งสวยงาม บริเวณชายหาดมีโขดหินสลับบางแห่ง อยู่ระหว่างหาดหน้าด่านและหาดในเพลา เป็นอีกหาดที่มีความร่มรื่นของธรรมชาติที่ประทับใจผู้มาเยือน

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oceansmile.com/S/Nakhonsitammarat/Nakhon5.htm

 

เป็นหาดที่กว้าง ยาว และมีทรายขาวเม็ดละเอียด แต่มีเศษขยะเยอะไปหน่อย ถ้ามีการจัดการเก็บขยะกัน ก็จะเป็นหาดที่สวยมาก

 

ขนอมเป็นจุดสุดท้ายสำหรับการปั่นจักรยานเที่ยวทางไกลและต่อเนื่องของเรา หลังจากนี้เราก็ยังปั่นจักรยานเที่ยว แต่เป็นแบบช่วงๆ ไม่ต่อเนื่อง และปั่นจักรยานเปล่าๆ ไม่มีกระเป๋า

 

รุ่งขึ้นเราก็ขนจักรยานขึ้นรถเมล์กันอีกครั้ง มุ่งตรงสู่นครศรีธรรมราช ทันเวลาฉลองตรุษจีนกับพ่อแม่และญาติๆ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องชีวิตคือการเดินทาง ในตอนต่อไป

 

 

อ่านชีวิตคือการเดินทาง ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

ชีวิตคือการเดินทาง

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทำไมต้องท่องเที่ยว

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ฉันรักสวนลุม

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน มีรักที่ราชบุรี

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดับเบิ้ลดีที่อัมพวา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทะเล หาดทราย สายลม และสองเรา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หัวหิน..ไม่สิ้นเสน่หา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หากเธอคือฟ้า ฉันจะเป็นทะเล

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นช้าๆ ตาม..เสียงเกลียวคลื่นและกลิ่นไอทะเล

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นตามใจ ไปตามฝัน

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน สุขใจ@นครศรีธรรมราช

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

สุขสันต์ปีมะแม

บล็อกนี้แม้ว่าจะมาสายไปนิด แต่ขออวยพรให้เพื่อนมีแต่ความสุข ทั้งสุขกาย และที่สำคัญคือ  ‘สุขใจ’

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า วัดพระธาตุ ในวันนี้กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะ อ้อยหวานเลยต้องเอารูปเก่า ที่ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2513 มาลงแทน

 

นครศรีธรรมราชเป็นบ้านเกิดของอ้อยหวาน แม้นจะจากบ้านไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพตั้งแต่สิบขวบ เรียนจบ พบรัก และย้ายถิ่นฐานไปอยู่ไกลแสนไกล

 

แต่อ้อยหวานก็ยังเป็น ‘เด็กเมืองคอน’ ความผูกพันนั้นไม่เคยเสื่อมคลาย คราวนี้อ้อยหวานกลับมาอยู่บ้านสองอาทิตย์กว่า ก่อนคุณผู้ชายจะมาสมทบ ได้ปั่นจักรยานรอบๆ  เมืองคอนเช่นเคย ดังที่เขียนไว้ในบล็อกเก่า

ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอน ฉันรัก..เมืองคอน

ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอน สวยจัง..เมืองคอน

*********************

จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดในประเทศไทย มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้ และ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ (รองจากสุราษฎร์ธานี) ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 780 กิโลเมตร มีจังหวัดที่อยู่ติดกันได้แก่ สงขลา พัทลุง ตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี

ในอดีต มีชื่อเรียกดินแดนแถบนี้หลายชื่อ เช่น ในคัมภีร์มหานิเทศของอินเดีย ที่เขียนขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เรียกว่า "ตามพรลิงก์", บันทึกโบราณของเมืองจีนเรียก "เซี้ยะ-โท้ว(ถู-กวั่ว)", "รักตะมฤติกา"(จารึกภาษาสันสกฤต) ซึ่งล้วนหมายถึง "ดินแดนที่มีดินสีแดง", ตะวันตกนิยมเรียกกันมา จนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 คือ "ลิกอร์"สันนิษฐานว่าชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นผู้เรียกก่อน โดยเพี้ยนมาจากคำว่า "นคร"ส่วนชื่อ "นครศรีธรรมราช"มาจากพระนามของกษัตริย์ผู้ครองนครในอดีต มีพระนามว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช) มีความหมายว่า "นครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม"หรือ "เมืองแห่งพุทธธรรมของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่"

ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย

 

บล็อกนี้ขอเอาภาพบรรยากาศงานฉลองเทศกาลตรุษจีน 2015 ของนครศรีธรรมราช มาให้ชมกัน ภาพอาจจะไม่ชัดนัก เพราะคนเยอะมาก

 

มีการปิดถนน กางโต๊ะกินกันกลางถนนเลย ของกินเยอะมากๆๆ

 

มีอะไรบ้าง มาดูกัน..

 

ผัดไทยเมืองลุง

 

ยำไข่แมงดาทะเล

 

ซูชิแบบไทยๆ

อ้อยหวานไม่สามารถเอาของกินมาให้ชมได้หมด เพราะเยอะมากจริงๆ

 

มีการไหว้เจ้าเพื่อเป็นศิริมงคล

 

บนเวทีก็มีโชว์ต่างๆ ให้ชม และที่สนุกสุดๆ คือ เพลงลูกทุ่งที่มีหางเครื่องมาเต้นประกอบ เต้นโชว์กันสุดเหวี่ยง

 

เช้าอีกวันเราขนจักรยานขึ้นรถเมล์ไปที่ปากพนัง แล้วเริ่มปั่นหลังจากข้ามแม่น้ำปากพนัง จุดหมายคือแหลมตะลุมพุก ไปกลับก็ห้าสิบกว่ากิโล หลายปีมาแล้วอ้อยหวานปั่นจากบ้านไปปากพนัง ดูได้ที่นี่แต่ตอนนี้ถนนสายนี้เปลี่ยนไป กำลังจะเป็นถนนใหญ่สี่เลนท์ ต้นไม้ใหญ่ที่เคยให้ร่มเงาแก่ผู้สัญจรไปมา ถูกตัดจนเกลี้ยง อ้อยหวานหวั่นใจกับอนาคตของบ้านไม้เก่าๆ สวยๆ หลายหลังที่เรียงรายอยู่บนถนนไปยังปากพนังสายนี้ มนุษย์เราต้องแลกหลายสิ่งหลายอย่างที่สวยงาม เพื่อความเจริญสู่ท้องถิ่น น่าเสียดายจริงๆ

 

ปากพนังวันนี้ยังสดใส

 

คอนโดนกนางแอ่น ยังยืนเรียงรายสองฝากฝั่งแม่น้ำปากพนัง

*************************

ตำนานคอนโดนกนางแอ่น ได้เริ่มที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณริมฝั่งแม่น้ำปากพนัง ซึ่งมีคอนโดนกนางแอ่นไม่ต่ำ 100 แห่ง สร้างธุรกิจมูลค่ามหาศาลจากการจำหน่ายรังนกแต่ปัจจุบันประชากรนกนางแอ่นที่นั้นได้ลดลงแล้ว ทำให้ไม่มีการลงทุนเพิ่ม

แสงสุดท้ายของวันที่สาดกระทบแม่น้ำปากพนัง สะท้อนภาพคอนโนนกนางแอ่น ที่เรียงรายอยู่ทั้ง 2ฝั่งของแม่น้ำสายสำคัญ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช บ่งชี้ถือการเป็นสถานที่แห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นเจ้าตำนานการทำธุรกิจคอนโดนกนางแอ่น ทุกเช้าค่ำคนที่นี้ได้เห็นและได้ยินเสียงนกนางแอ่นเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของ ชีวิต

ตำนานธุรกิจคอนโดนกนางแอ่นปากพนัง เริ่มจากตึกแถวเก่า 5 คูหา 3 ชั้นมีอายุเกือบ 100 ปีที่กำลังเห็นอยู่นี้ละค่ะ ถือว่าเป็นบ้านนกหลังแรกของปากพนังค่ะ หลังจากที่นกนางแอ่นเข้ามาอาศัยอยู่เจ้าของจึงหันมาจำหน่ายรังนกอย่างจริง จัง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้กันว่าเจ้าของกลายเป็นเศรษฐีมาหลาย10 ปีแล้ว ซึ่งจากจุดเริ่มต้น ทำให้ธุรกิจนี้แผ่กระจายมากขึ้น และทำกันมาต่อเนื่องมากกว่า 50 ปี แต่ที่บูมมากที่สุดจนมีการขออนุญาตการก่อสร้างตึกเพื่อเป็นคอนโดนกมีมาก ตั้งแต่เมื่อ 10 ที่แล้ว ทำให้ปัจจุบันมีคอนโดนกอยู่ที่ปากพนังประมาณ 150 คอนโด ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่บริเวณริมฝั่งหรือไม่ไกลจากแม่น้ำปากพนังมากนัก เพราะนกนางแอ่นหากินตามแหล่งน้ำ แต่สถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง เล่าได้ฟังว่าอาจจะถึงจุดอิ่มตัวของธุรกิจ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีการของอนุญาตก่อสร้างอาคารสูง หรือคอนโดนกเพิ่มอีก

สอดคล้องกับเจ้าของธุรกิจรังนกปากพนัง ที่เล่าให้ทีมข่าววอยซ์ ทีวีฟังว่าขณะนี้ประชากรน้อยนางแอ่นลดน้อยลง เห็นได้ชัดจากหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ทำให้นกย้ายถิ่นไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีใครมาลงทุนเพิ่ม ส่วนผู้ที่ลงทุนทำคอนโนนกอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์จะเป็นคนในพื้นที่ และมีต่างชาติเช่นมาเลเซีย และอินโดนีเซียมารวมลงทุนด้วยเล็กน้อย แต่รังนกปากพนังก็ยังเป็นสิ่งที่ตลาดต้องการ มีเท่าไรก็ขายได้หมด และมีพ่อค้ามารับซื้อทุกวัน

สำหรับเคล็ดลับที่ทำให้รังนกมีราคาสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70,000 บาท จากเดิมที่เป็นรังดิบ มีขนนกสีดำติดมาด้วย ซึ่งจำหน่ายได้ในกิโลกรัมละ 40,000 บาท คือการคัดแยกรังนกออกมาที่ละเส้น ด้วยการนำรังนกดิบไปแช่น้ำและนำส่วนที่เป็นขนนกออก จากการยืนดูอยู่นาน ยืนยันค่ะว่างานนี้ยากจริง ๆ เพราะมองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากแยกเสร็จ ก็จะนำมาก่อรังใหม่เป็นรังขาวน่ารับประทานแบบนี้

ธุรกิจคอนโดนกนางแอ่นปากพนังในปัจจุบัน แม้จะไม่บูมเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นแหล่งรายได้และสัญลักษณ์ที่สำคัญของที่นี

ขอบคุณข้อมูลจาก ย้อนรอยตำนานคอนโดนกปากพนัง โดยอัจฉราวรรณ์ สุวรรณสมบัติ

 

แม่น้ำปากพนังนอกจากจะเรียงไปด้วยคอนโดนกนางแอ่นแล้ว ยังมีบ้านริมน้ำเก่าๆให้ชมอีกด้วย

 

เราไม่ได้แวะตลาด เพราะระยะทางวันนี้ยังยาวไกล และอาจจะต้องปั่นกลางแดดที่แผดเผา

 

เราปั่นออกจากปากพนัง ผ่านถนนหลังที่ร่มรื่น

 

แต่พอออกมาเจอถนนใหญ่อีกด้าน ความร่มรื่นก็หายไป มีแต่นากุ้ง นากุ้ง และนากุ้งเรียงรายไปตลอดสาย หาเงาไม้ไม่ได้เลย สายหน่อยแดดก็ร้อนแรง

 

แหลมตะลุมพุกวันนี้ ค่อนข้างจะผิดหวัง สกปรกมาก ถึงมากที่สุด อ้อยหวานยกกล้องถ่ายรูปนี้ได้รูปเดียว เพราะดูดีที่สุด แล้วเราหันหลังกลับ ปั่นจักรยานไปบนเส้นทางเดิม กลับไปปากพนัง

 

ใช้เวลาก่อนขึ้นเรือข้ามฟาก ถ่ายรูปแม่น้ำปากพนังที่งดงาม

 

เรียงรายไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ แต่จะคงอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไร?

 

เราเดินทางเพื่อ... ค้นหาตัวเอง

เราเดินทางเพื่อ...เปิดตาเปิดใจให้เรียนรู้โลก

เราเดินทางเพื่อ...ชะลอเวลา…และซึมซับโลกที่สวยงาม

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องชีวิตคือการเดินทาง ในตอนต่อไป

 

อ่านชีวิตคือการเดินทาง ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

ชีวิตคือการเดินทาง

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทำไมต้องท่องเที่ยว

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ฉันรักสวนลุม

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน มีรักที่ราชบุรี

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดับเบิ้ลดีที่อัมพวา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทะเล หาดทราย สายลม และสองเรา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หัวหิน..ไม่สิ้นเสน่หา

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หากเธอคือฟ้า ฉันจะเป็นทะเล

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นช้าๆ ตาม..เสียงเกลียวคลื่นและกลิ่นไอทะเล

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นตามใจ ไปตามฝัน

ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดั่งหนึ่งเม็ดทราย

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

วันนี้ที่นครศรีธรรมราช

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้อ้อยหวานแว็ปมาอัพเดท มาพาเพื่อนๆ ไปชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรืพระธาตุเมืองคอนกันค่ะ นครศรีฯ หรือเมืองคอน เมืองบ้านเกิดของอ้อยหวานในวันนี้สุดสวยโสภา หมอกควันไฟป่าเชื้อสายอินโดได้มลายหายไป เหลือทิ้งไว้แต่สายฝนชุ่มฉ่ำ

 

ตอนนี้พระธาตุยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม มีโครงก่อสร้างหุ้มเกือบทั้งองค์ ซึ่งอ้อยหวานคิดว่าสวยแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง

 

สวยดีไหม?

 

ดูกันชัดๆ

"พระบรมธาจุเจดีย์นครศรีธรรมราชนี้แม้ว่าจะมีผู้กล่าวว่าเป็นของที่สร้างคลุมพระสถูปองค์เดิมภายในก็ตาม แต่ลักษณะก็เป็นของเก่าแก่และเชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลของพระเจดีย์แบบลังกา เจดีย์พระบรมธาตุคงสร้างขึ้นในรามพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ในสมัยที่เมืองนครศรีธรรมราช ยังเป็นราชธานีของภาคใต้อยู่ลักษณะของพระเจดีย์ในระยะแรกนั้นมีเจดีย์เล็กประดับที่มุมทั้งสี่ และรอบๆ ฐานประดับด้วยช้างหัวโผล่ออกมานอกซุ้ม พระเจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของเมืองนครศรีธรรมราช เพราะได้กลายเป็นแบบอย่างให้แก่พระสถูปเจดีย์อีกหลายๆ องค์ ซึ่งสร้างขึ้นมาในสมัยหลัง ๆ จนทุกวันนี้ พระเจดีย์พระธาตุนครศรีธรรมราชกลายเป็นเจดีย์ทีส่งอิทธิพลในทางศิลปะสถาปัตยกรรมไปยังเจดีย์ในภาคต่าง ๆ ทางภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทย ” รองศาสตราจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม"

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.jatukarmtapee.com/faq/faq_04.htm

 

ส่วนรอบๆ บริเวณได้รับการซ่อมแซม หรือทำใหม่อย่างสวยงาม ตอนเด็กๆ อ้อยหวานเรียกหาดทรายหน้าพระธาตุว่า หาดทรายแก้ว ในตอนนั้นมีความรู้สึกว่าเป็นหาดที่กว้างมาก

หาดทรายแก้วเป็นชื่อสันดอนทรายชายฝั่งตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองนครศรีธรรมาราช เกิดจากทรายจากเทือกเขาค่อยๆ ตกตะกอนสะสมในทะเลชายฝั่งจนตื่นเขิน นานเข้าจึงขยายเป็นแผ่นดินที่ราบชายฝั่งสันทรายเก่าที่เกิดในยุคโฮโลซีน ( Holocene) เมื่อประมาณ ๘,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ปีที่แล้ว

 

ศิลปหี่สวยงดงาม เป็นความภาคภูมิใจของคนคอน

 

ใบหน้าแห่งความภาคภูมิใจ

 

 

อีกใบหน้าหนึ่ง

 

ความงามที่มีให้ชื่นชม

 

ถนนหน้าวัดได้รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ ปูด้วยอิฐสวยงาม ริมถนนเรียงรายไปด้วยเสาไฟฟ้า 12 นักษัตร

จากข้อมูลที่ใช้อ้างอิงระบุความเป็นมาว่า อดีตเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมือง 12 นักษัตร มีเมืองบริวาร 12 เมือง ล้อมรอบมาแต่โบราณ แต่ละมืองใช้สัญลักษณ์รูปสัตว์ประจำเมือง เช่น เมืองสายบุรีใช้ตราหนู เมืองปัตตานีใช้ตราวัว เมืองตะกั่วป่าใช้ตราสุนัข เมืองกระบุรีใช้ตราหมู เมืองกลันตัน ใช้ตราเสือ และกลายเป็นที่มาของรูปนักษัตรบนเสาไฟฟ้า

ขอบคุณข้อมูลจากสำนักข่าวไหย

 

หนึ่งในเสาไฟฟ้า 12 นักษัตร

 

อ้อยหวานกลับมาเยี่ยมบ้านคราวหน้า พระธาตุคงจะเสร็จสมบูรณ์ อย่าลืมแวะมาชมกันนะคะ โบราณสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความภาคภูมิใจของคนไทย

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

อ้อยหวาน

สู่อ้อมกอดของขุนเขาที่บ้านคีรีวง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

นอกจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือพระธาตุเมืองคอนแล้ว ของดีของนครศรีธรรมราชยังมีอีกมากมาย วันนี้อ้อยหวานเอาสถานที่ดี้ดีอีกแห่งมาให้เพื่อนๆ ชมกัน หลายคนคงร้องบอกว่า ไปมาแล้วจ้า ก็วันเกิดเว็ปที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ก็จัดกันสดๆ ที่คีรีวง แต่รีวิวของอ้อยหวานก็จะไม่เหมือนใคร เพราะจะเป็นรีวิวเที่ยวคีรีวงกับสองล้อ ที่ภาษาใต้เรียกว่า รถถีบ เอ้ามาเร็วๆ มาถีบรถถีบสู่อ้อมกอดของขุนเขาที่คีรีวงกัน

 

วันนี้เป็นวันแรกในรอบสองอาทิตย์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วฟ้าใสไร้ฝน อ้อยหวานเลยลั่นล้าชวนคุณผู้ชายที่เพิ่งมาถึงเมืองไทย ไปเราไปปั่นรถถีบจากบ้านที่ท่าวัง อำเภอเมืองนครศรี ไปบ้านคีรีวง 25 กิโลเมตร และปั่นเที่ยว+หลงที่คีรีวงกันอีก 6-7 กิโล

 

จากนครศรีไปปากทางบ้านคีรีวงต้องปั่นบนถนนใหญ่ เช้าวันเสาร์รถไม่มากนัก แต่ก็ไม่มีวิวให้ถ่ายรูป แต่จากถนนใหญ่ตรงปากทางเข้าสู่บ้านคีรีวง (ทางเข้าข้างหลวงพ่อทวด) เป็นเส้นทางที่สวยมาก เหมือนค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่อ้อมกอดของขุนเขาจริงๆ เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกับว่าจะพาเราสู่แดนหิมพานต์ ไปกับจักรยานเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้

เป็นเส้นทางสิบกิโลเมตรที่สวยมากมาย

 

ข้อมูลบ้านคีรีวง จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

แหล่งอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย รางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน  เป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ตั้งอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตสุขสงบแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทำสวน โดยทำสวนแบบผสมผสาน ที่เรียกว่า สวนสมรม ปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิดคละกันในสวนเดียวกัน เช่น สะตอ มังคุด ทุเรียน หมาก พลู ฯลฯ  ภายในชุมชนมีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าที่ระลึกขึ้นชื่อหลากชนิด เช่น ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ สบู่สมุนไพรเปลือกมังคุด  ทุเรียนกวน ฯลฯ

 

นักท่องเที่ยวสามารถศึกษา เรียนรู้ ดูงาน ชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ พักแบบโฮมสเตย์ หรือเลือกพักรีสอร์ท ติดธารน้ำตกได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูผลไม้ ระหว่างเดือน กรกฎาคม – กันยายน จะได้ลิ้มรสผลไม้สดๆ นอกจากนี้มีบริการเดินป่าศึกษาธรรมชาติสู่ยอดเขาหลวงสำหรับ  ผู้ที่หลงใหลธรรมชาติชอบผจญภัย สอบถามข้อมูลติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านคีรีวง โทร.และ  0-7553-3370 และ 0-7553-3113

ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไชด์ของบ้านคีรีวงได้ที่นี่http://www.kiriwonggroup.com/

 

ในอ้อมกอดของธรรมชาติ เสียดายที่อ้อยหวานไม่ได้เตรียมตัวไปเล่นน้ำ ไปถึงเห็นน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาแล้วอยากลงแช่บ้าง

 

เขียวขจี

 

เล่นน้ำกันสนุกจริงๆ

 

เขาลุยได้

 

เราลุยบ้าง แต่รถไม่แรงอย่างเขา

 

สำหรับคนที่ต้องการปั่นจักรยานเล่นรอบๆ บ้านคีรีวง ก็ทำได้ ตรงไปเลยที่บ้านนายทั่ง

 

ไร่สวนส่วนของบ้านคีรีวงจะเป็นแบบสวนสมรม โดยมีพืชหลักคือมังคุด เราตามหามังคุดที่คิดว่าอาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง

 

บ้านคีรีวงมีธรรมชาติเกึอบทุกอย่างให้ไปค้นหา นอกจากสวนมังคุดที่เป็นพืชหลักแล้ว ก็ยังมีสวนปาล์มอีกด้วย

 

เราสองคนปั่นไปเรื่อยตามใจอยาก เส้นทางส่วนใหญ่มีต้นไม้ร่มครึ้ม

 

นอกจากธรรมชาติที่สวยงดงามแล้ว บ้านคีรีวงยังมีสินค้าจากธรรมชาติและสินค้าทำมือมากมาย หลากหลาย

 

ไว้ให้เลือกซื้อ เลือกช็อป

 

อย่าลืมแวะมาให้ขุนเขาและธรรมชาติโอบกอดที่บ้านคีรีวงกันนะค่ะ มาสูดอากาศดี้ดี นั่งฟังสายน้ำไหล หรือปั่นจักรยานเที่ยว ครั้งเดียวไม่เคยพอ แล้วใจจะถวิลหาขุนเขาอยู่ร่ำไป

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

 

ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง มันปิ้ง ปิ้ง จริงๆ นะ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

มีคนสนใจสอบถามอ้อยหวานมาว่าปั่นจักรยานเที่ยวจะเริ่มต้นยังไง ทำไรดี คำตอบคือ ไม่ต้องคิดมาก อยากลองก็คว้าจักรยานเล่นลิ่วออกไปเลย มีจักรยานอะไรก็เอาคันนั้นออกไป ทัวร์ริ่งได้ทุกแบบ ไม่จำเพาะเจาะจง ไม่ต้องเก๋เท่ห์ระเบิด ยังไม่มีจักรยานก็เลียวซ้ายแลขวา ขอยืมเพื่อนไปก่อน ยิ่งถ้าเพื่อนมีหลายคันก็ขอยืมลองปั่นไปให้หมดทุกคัน ไม่ต้องสนใจตาเขียวๆ ของเพื่อน (แต่ต้องเป็นเพื่อนรักนะเออ) เริ่มแรกก็ปั่นเที่ยวแถวบ้าน จากนั้นก็ไปไกลหน่อย เช่นไปเยี่ยมญาติ ไปหาของกินต่างถิ่น หรือหาเรื่องไปทุกที่ พอมีประสบการณ์สักนิดแล้วจะคิดได้เอง ไว้วันหลังอ้อยหวานจะจัดหนักไปเลย หลักสูตรว่าด้วยการทัวร์ริ่งกับจักรยาน

 

ในส่วนตัวของอ้อยหวานชอบจักรยานพับได้ เพราะสะดวกในการขนย้ายไปตามที่ต่างๆ บ่อยครั้งเราต้องแพ็คจักรยานขึ้นเครื่องบิน นั่งรถไฟ ลงเรือ ไปปั่นเที่ยวที่อื่นที่ไกลบ้านออกไป ขอบอกว่าปั่นได้ดีเท่าๆ จักรยานธรรมดา ล้อเล็กๆ ของจักรยานพับได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดในการปั่นเที่ยว ในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านไป อ้อยหวานปั่นเที่ยวรวมระยะทาง 2500 กว่ากิโลเมตร รวมทั้งทริปเที่ยวไทยสองทริป และทริปเที่ยวในแคนนาดา จักรยานพับได้ทั้งสองคัน สองยี่ห้อ ของอ้อยหวานไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีงอแง

 

ทัวร์ริ่งกับจักรยานทริบนี้อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรกว่าเน้นที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่จุดเริ่มต้นทริปคือนครศรีธรรมราช อ้อยหวานกับคุณผู้ชายที่บ้านได้เริ่มซ้อมปั่นกันด้วยทริปสู่อ้อมกอดของขุมเขาที่บ้านคีรีวงพอออกทริปทางไกลจริงๆ เราก็ไม่อยากปั่นซ้ำรอยเดิม และมีน้องอาสาขับรถไปส่งแถวๆ คีรีวง กะกันว่าจะเริ่มต้นทริปโดยการปั่นขื้นเขาผ่านลานสกา แล้วเลี้ยวซ้ายอ้อมเขาไปทุ่งสง ซื่งถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางหนื่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เช้าวันนั้นฝนตกปรอยๆ แต่เช้า ไม่เป็นการดีสำหรับปั่นขึ้นเขา (ข้ออ้างของคุณผู้ชาย) ว่าแล้วเราก็ไปเริ่มสตาร์ทกันบนเขาเลยดีกว่า ง่ายกว่ามาก ว่างั้นเถอะ โอกาสหน้ายังมีและลานสกาก็ไม่หนีไปไหน ติดหนี้ไว้ก่อนนะจ้ะ จะต้องมีการใช้หนี้นี้แน่นอน!

 

แต่กลุ่มนักปั่นในรูปข้างบนเก่งจริงๆ ไม่ติดหนี้ลานสกาเลย ทยอยปั่นขึ้นเขากันท่ามกลางสายฝนปรอยๆ แต่ละคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า เพราะได้รับรางวัลจากความใฝ่ฝันและความมุ่งมั่นของตนเอง จุดเริ่มต้นของอ้อยหวานและคุณผู้ชายคือจุดพักของนักปั่นกลุ่มนี้ เป็นความบังเอิญแท้ๆ เราเลยได้รูปหมู่ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์

 

แต่การไปเริ่มที่บนเขาก็ไม่ใช่ว่าเส้นทางตลอดสายจะลงเขา มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ จริงๆ แล้วมันขื้นเนินลงเนินตลอด แต่เนินโหดสุดคือเนินที่เรานั่งรถขื้นมา

คุณผู้ชายหาถนนสายเล็กได้จากแผนที่กูเกิลเราต้องใช้ GPS จากโทรศัพท์มือถือช่วยตลอด เพราะซอกแซก วกวน หากไม่มี GPS ช่วยก็คงต้องหลงอยู่ในป่าสวนยางแน่นอน

 

เส้นทางเลี้ยวซ้ายขวา ผ่านชุมชน ผู้คนมองมายังเราด้วยสายตาที่แปลกใจและมีคำถาม ทำอะไร มาจากไหน จะไปไหน ก็จักรยานสองคันที่มีกระเป๋าสีเหลืองใบโตห้อยแขวนอยู่สองข้าง ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ ผ่านเขตชุมชนมาได้หน่อยถนนก็เปลี่ยนมาเป็นทางดินที่กำลังเละได้ที่ เพราะสายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่กลางดึก ถึงเช้าก็ยังปรอยๆ ไม่ถึงกับกระหน่ำลงมา แต่เป็นละอองฝอยอยู่ทั่วไป...

ทำให้มีสายเมฆสายหมอกคลอเคลียหยอกล้อกับขุมเขา เราสองคนเห็นพ้องกันว่า ช่างเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง ต้องมาดูเองกับสองตา เพราะของจริงสวยกว่าในภาพมากมาย

 

เทือกเขานครศรีธรรมราช ตั้งเป็นแกนกลางของคาบสมุทรไทย (ภาคใต้ตอนกลาง) ทอดตัวในแนวเหนือ - ใต้ โดยเริ่มจากเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพงัน เกาะสมุย เกาะกะเต็น มีบางส่วนที่จมลงไปในทะเล เรียกส่วนนี้ว่า ช่องแคบสมุย โดยมาโผล่ขึ้นที่อำเภอดอนสัก เขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีและอำเภอขนอม เขตจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง โดยเทือกเขาที่ผ่านเขตจังหวัดพัทลุงและตรังถือเป็นที่กั้นเขตแดนระหว่าง 2 จังหวัดนี้ มักเรียกอีกชื่อว่า "เทือกเขาบรรทัด"จากนั้น แนวเทือกเขายาวลงไปยังเขตแดนระหว่างจังหวัดสตูลกับประเทศมาเลเซีย โดยบรรจบกับเทือกเขาสันกาลาคีรีที่ภูเขาซีนา จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทยกับมาเลเซีย

แนวเทือกเขานครศรีธรรมราชนับเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยาวที่สุดในภาคใต้ โดยมียอดเขาหลวงซึ่งมีความสูงประมาณ 2,435 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาและสูงที่สุดในภาคใต้ ตั้งอยู่อยู่ในเขตอำเภอลานสะกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เปรียบเสมือนเป็นหลังคาสีเขียวของภาคใต้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ขอบคุณวิกิพีเดีย

 

เราซอกแซกขึ้นลงเนินเขา ผ่านสวนยางมากมาย เพราะสวนยางนั้นฮิตติดอันดับหนึ่งของแถบนี้ อ้อยหวานชื่นชอบสวนยางเป็นพิเศษ และคิดว่าสวนยางสวยอย่างมีเสน่ห์และมีศิลป์ ปั่นจักรยานท่ามกลางป่ายางเป็นสิ่งที่วิเศษยิ่ง เหมือนกับรวมเอาการชมธรรมชาติและงานศิลปะเข้าด้วยกัน ละอองฝนเติมแต่งบรรยากาศให้เหมือนกับอยู่ในป่าลึกลับ อ้อยหวานหยุดอยู่ตรงนี้เนิ่นนาน รั้งรอ เก็บภาพตรงหน้า นึกถึงคนที่ตื่นเช้ามาทำงานหรือทำมาหากินในสวนยาง ขอบอกว่าช่างเป็นที่ทำงานที่สวยจริงๆ

 

อ้อยหวานคุ้นเคยกับยางพาราและสวนยางมาตั้งแต่เกิด ทั้งพ่อและตาทำงานเลี้ยงครอบครัวกับยางพารามาช้านาน แม้พ่อจะเลิกลามานานแล้ว แต่เรื่องราวและกลิ่นยางยังติดอยู่ในความทรงจำ ภาพที่แม่เคยเล่าตอนติดตามตาไปดูแลสวนยาง หวนกลับมาวิบวิบวับวับในความทรงจำ เลือนลางดุจภาพในสายหมอก แต่แจ่มชัดในความทรงจำ อีกทั้งภาพที่เคยวิ่งเล่นกับน้องๆ ท่ามกลางกองแผ่นยางสีคล้ำและมีกลิ่นฉุนแรง มาปรากฏราวกับภาพฝัน เลือนลางและแจ่มชัดสลับไปมา ยืนงงงันต้องมนต์สวนยางอยู่นานจนคนรอต้องร้องเรียก เมื่อเก็บภาพความทรงจำไว้หนำใจแล้ว สองล้อก็มุ่งหน้าไปต่อ

 

เพื่อไปหยุดดื่มด่ำกับภาพฝันริมทางอีกเป็นระยะมากับสองล้อเท่านั้นที่จะทำได้เยี่ยงนี้

 

อ้อยหวานขอแนบแผนที่เส้นทางปั่นของเรามาด้วย เผื่อมีคนอยากตามรอย แนะนำเลยเส้นทางนี้สวยมากมาย แถมรถน้อยด้วย จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือทุ่งสง ซึ่งอยู่คนละฝั่งเขากับนครศรีธรรมราชและลานสกา เส้นทางจืงโอบกอดภูเขาหรือถูกภูเขาโอบกอดอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า แบร์ ฮัก (bear hug) อ้อมกอดหมีที่รัดรึง กระชับแน่น และอบอุ่น

 

เส้นทางนี้มีน้ำตกให้หยุดแวะชมอยู่หลายแห่ง แต่ขอบอกว่าแต่ละแห่งต้องปั่นขึ้นเขาไปหลายกิโล เราปั่นเข้าชมที่เดียว แล้วอ้อยหวานไปเลื่อนล้มเกือบตกลงไปในน้ำให้หวาดเสียวเล่น น้ำในน้ำตกค่อนข้างแรงเพราะฝนตกมาหลายวัน ไปถึง โรงแรมชิโนเฮ้าส์ทุ่งสงก็มอมแมมทั้งคนและจักรยาน

 

ดอกไม้ริมทางของวันนี้

 

ภาพเอ็คชั่นของวันนี้

โดนเจ้าถิ่นไล่ตั้งแต่วันแรกเลย

 

โปรดติดตามปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป

 

อ่านปั่นเที่ยวไทยตอนที่แล้วได้ที่นี่

รางวัลแด่คนช่างฝัน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของอ้อยหวาน แม้จะเป็นเด็กที่จากบ้านไปเรียนหนังสือที่เมืองกรุงตั้งแต่เล็กๆ แต่นครก็ยังเป็นสถานที่ที่อ้อยหวานเรียกว่าบ้าน

บ้านในภาษาอังกฤษมีใช้อยู่สองคำ คือ เฮ้าส์ (house) และ โฮม (home) แปลง่ายๆ ได้ว่า เฮ้าส์ (house) คือบ้านที่อยู่อาศัย โฮม (home) คือ บ้านใจ ตามคำคมยอดนิยมของฝรั่งที่ว่า "Home Is Where Your Heart Is"

อ้อยหวานสามารถเรียกนครศรีฯ ว่า มาย โฮม ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นบ้านใจที่มีพ่อแม่รออยู่

ตอนเด็กๆ เวลานั่งรถไฟกลับบ้านซึ่งใช้เวลายาวนานมาก ออกจากกรุงเทพตอนบ่าย มาถึงนครเกือบเที่ยงของวันถัดมา เมื่อรถไฟวิ่งผ่านวัดพระธาตุในระยะไกล หัวใจน้อยๆ พองโต

..อา..ถึงบ้านแล้ว..  น้ำตาเอ่อล้นท่วมสองตา

ใจผูกพันไม่เคยเลือน กลับบ้านทุกคราก็ต้องแวะไปเยือน คราวนี้อยู่บ้านนานหน่อย ก็ไปบ่อย ปั่นจักรยานไปแต่เช้า ไปนั่งเงียบๆ ชมพระธาตุ ดูใบไม้ นับเม็ดทราย ชมนก ชมไม้ บ้างก็สวดมนต์ ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง องค์พระธาตุก็มีโครงไม้ไผ่ที่หุ้มมาเกือบสองปี จนวันสุดท้ายที่ปั่นจักรยานออกไปชม อ้อยหวานก็ต้องร้องว้าววว พระธาตุสวยจัง โครงไม้ได้อันตรธาน หายไปจนหมดสิ้น เหลือแต่องค์พระธาตุอันงดงาม  แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เก็บภาพสวยมาได้ภาพเดียว คือภาพในบล็อกที่แล้วสามสี่วันมานี้ อ้อยหวานเกิดอาการคิดถึงบ้านขึ้นมา เลยได้นั่งวาดภาพสีน้ำตามแบบฉบับของอ้อยหวาน คือแบบหวานเย็น รูปหนึ่งใช้เวลาหลายวัน พระธาตุในดวงใจอ้อยหวาน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็รำลึกถึงอยู่เสมอ

 

Photo:

มีอยู่เช้าหนึ่ง อ้อยหวานแวะไปที่พระธาตุเช่นทุกครั้ง แต่เมื่อเดินผ่านประตูวัดเข้าไป ก็ต้องตกใจ เกิดอะไรขึ้นทำไมคนเต็มวัดเลย! ที่จอดรถของวัดก็มีรถทัวร์คันใหญ่อยู่เต็มเช่นกัน ต่อมาถึงได้รู้ว่าเป็นผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้าน เขามาแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน

 

Photo:

ขอลอกข้อเขียนจากมติชน ออนไลน์ มาให้อ่านกัน...

...นายเฉิน กล่าวผ่านล่ามว่า ชาวมาเลเซียที่เดินทางมาครั้งนี้ จะมีทั้งเชื้อสายไทยและเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาพุทธ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศมาเลเซีย โดยทุกคนมีความเชื่อว่า จะต้องเดินทางมากราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชปีละ 1 ครั้ง จนครบ 9 ปี หลังตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี จะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีโชคลาภ และชีวิตครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ในขณะที่บางครอบครัวที่บรรพบุรุษเป็นคนไทยได้นำบุตรหลานมาบรรพชาอุปสมบทที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

“บางคนมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งในแต่ละปีจะเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 20 คัน รถบัส สำหรับปีนี้ จะมีทยอยเดินทางมาทุกเสาร์ อาทิตย์ โดยแวะที่วัดพระมหาธาตุฯ ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง จากนั้นแวะรับประทานอาหาร ซื้อเครื่องประดับและสินค้าหัตถกรรม เดินทางกลับไปพักค้างคืนที่ อ.หาดใหญ่ หรือในตัวเมืองสงขลา” นายเฉินกล่าวผ่านล่าม

ฉบับเต็มอ่านได้ ที่นี่

ขอบคุณค่ะ

 

Photo:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุหมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามา เย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน

ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 

Photo:

แขกต่างชาติเขาตระเตรียมแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน คนปั่นจักรยานเลยต้องเดินเก็บเศษขยะหนังสือพิมพ์มาเลย์ฉบับภาษาจีน ที่แขกเอามาใช้ลองนั่งฟังพระสวดก่อนที่จะปลิวว่อนไปทั่วลานวัด

 

Photo:

นอกจากพระธาตุแล้ว นครศรีฯ ยังมี ‘อันซีน ไทยแลนด์’ อีกด้วยนะจ้ะ

เมื่อพี่สาวสุดที่รักลงภาพโบสถ์หลังเก่าที่มีเถาวัลย์เกาะอยู่เต็ม สวยแปลกจนอ้อยหวานต้องตะโกนถามไปว่า “ที่นั่นที่ใด พาน้องไปให้เห็นกะตาได้ไหม”

 

Photo:

แล้วเช้าวันหนึ่งก็มีคนเห็นสองจักรยานโลดลิ่ว ผ่านดินแดนที่ห่างไกล (แต่ใกล้นครฯ นิดเดียว) ที่อ้อยหวานบอกว่า ‘ดินแดนที่ห่างไกล’ นั้นหมายถึง ‘ห่างไกลจากผู้คนและความวุ่นวายจอแจ’ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Off The Beaten Track’ (มาแล้ว..ภาษาอังกฤษ วันละคำ!!!)

 

Photo:

‘Off The Beaten Track’ จริงๆ หนูช๊อบ..ชอบ และการปั่นจักรยานเที่ยวชมสถานที่เช่นนี้ เป็นการเคารพสถานที่นั้นๆ อย่างจริงใจ การไปชมสถานที่ที่เงียบสงบ เราก็อย่าได้ขนรถรา ตะบึงแล่นไป จนฝุ่นกระจุย ความสงบเงียบกระจายผู้คนและนกกาผวาดผวา

ขอร้องอย่าทำ!!!

 

Photo:

วัดไพศาลสถิตเป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากพยูน อำเภอเมือง นครศรีฯ จดไว้เลย...

 

Photo:

ธรรมชาติเรียกคืน

 

Photo:

เก่าแก่ แต่..งดงามตามธรรมชาติ

 

Photo:

ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

 

Photo:

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในโบสถ์ เป็นภาพที่งดงามมาก สวย สงบ และ งดงาม

 

Photo:

เก่า กับ ใหม่

อ้อยหวานขอขอบคุณพี่สาวที่นำทางไปชม ‘อันซีน ไทยแลนด์’ ในครั้งนี้ ขอบคุณมากค่ะ แล้วพบเจออะไรอีก ก็อย่าลืมกระซิบบอกกันด้วยนะ!

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

 

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

 

อ่านบล็อก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรืพระธาตุเมืองคอน ของอ้อยหวานได้ที่นี่

วันนี้ที่นครศรีธรรมราช

ฉันรัก..เมืองคอน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 


สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

กลับบ้านเกิดเมืองคอนคราวนี้ อ้อยหวานได้ปั่นจักรยานภายในตัวอำเภอเสียจนเรียกว่าปรุ เข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ เป็นว่าเล่น เพราะกลับไปนอนเล่นที่บ้านเป็นเดือน และแม่สั่งนักสั่งหนาว่า ‘อย่าไปไหนไกล’ จนกว่าจะมีเพื่อนร่วมปั่น!

เช้าวันแรกที่บ้านเกิด สองล้อคู่ใจที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะอ้อยหวานซื้อหามาหลายปีแล้วทิ้งไว้ที่บ้าน กลับมาจะได้มีจักรยานปั่นเที่ยว เมื่อเปิดประตูแล้วทะยานออกไป อ้อยหวานรู้สึกเลยว่า จักรยานมันดีใจ ล้อหมุนเริงร่า ระริก ระรี้ ขึ้นมาทีเดียว ใจนึกสงสารมัน (จักรยาน) ก็เลยสัญญากับมันว่า กลับบ้านมาคราวนี้จะพาเที่ยวทุกเช้าให้หนำใจไปเลย

เช้าแรกก็ต้องแวะมาที่นี่ มายกมือไหว้พระธาตุ อธิษฐานของให้เดินทางปลอดภัย ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน นั่งรถ ขึ้นเครื่องบิน

ดวงตะวันขึ้นจากทางหน้าวัด คนที่อยากถ่ายภาพพระธาตุกับพระทิตย์ขึ้นยามเช้า ก็ต้องมาเก็บภาพหลังวัด เสียดายที่มีสายไฟฟ้ารกสายตา ถ้าเอาฝังใต้ดินคงจะเป็นการดี

 

Photo:

หลังจากไหว้พระธาตุแล้ว อ้อยหวานก็หมุนล้อไปตามซอกซอยหลังพระธาต ถิ่นที่ตัวเองชื่นชอบและมาบ่อยๆ เมื่อหลุดออกจากซอยมาที่ถนนตัดใหม่หรือถนนเลียบทางรถไฟ ก็ต้องร้องว้าว!!! เส้นทางจักรยานสีเขียวสวยงดงาม สายแรกของนครศรีธรรมราชเลยนะเนี่ย ดีใจจนหน้าบาน ไม่ได้การแล้ว อย่างนี้ต้องลองปั่นทดสอบเส้นทางกันสักหน่อย

 

Photo:

เส้นทางสีเขียวนี้มีระยะทางประมาณ 6.3 กิโลเมตร อ้อยหวานเลยปั่นไปกลับเสียเลย เริ่มแรกก็ไปได้สวย แต่….

 

Photo:

ชะอุ้ย ขอโทษที!!

กระผมอ่านหนังสือไม่ออก

 

Photo:

@@##**##$$%%

งงเลยละเธอ

 

Photo:

ภายในเช้าเดียวกันนี้ นับได้หกคัน พอดิบพอดี

ยัง ยังไม่หมด มีรถมอเยอร์ไซด์มาวิ่งบนทางจักรยานหลายคันด้วย แต่ถ่ายรูปไม่ทัน ทั้งๆ ที่เขามีทำทางรถมอเตอร์ไซด์ไว้ให้ด้วย แถมมีวิ่งสวนทางมาบนทางจักรยานอีกด้วย เห็นแล้วงง!

***ตามความคิดเห็นส่วนตัวของอ้อยหวาน ...ประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่นับกันที่ประชาชนมีโทรศัพท์มือถือใช้กันทุกคน มีไอโฟนใช้กันมากมาย เด็กๆ มีคอมเล่นกันกี่คน ในประเทศมีคลื่นโทรศัพท์มือถือ  3G, 4G, 5G หรือ เอาไปเลย 10G มีอะไรต่อมิอะไรทุกอย่างที่เมืองนอกเขามีกัน สิ่งเหล่านั้นมันเป็นความเจริญทางวัตถุ ที่ไม่เสริมสร้างความเจริญทางจิตใจ หรือความเจริญทางการดำรงวิถีชีวิตได้เลย

...ประเทศที่เจริญแล้ว เขานับกันที่ ประชาชนมีระเบียบ เคารพต่อกฎเกณฑ์ เคารพกฎกติกาของสังคมและสิทธิผู้อื่น มากแค่ไหน ต่างหากเล่า

 

Photo:

บ่นไปก็ไลพ์บอย ไปเดินตลาดกันดีกว่า เช้าวันหนึ่งอ้อยหวานออกปั่นเช่นเคย ไปทางใหม่ที่ไม่เคยไป แล้วไปจ๊ะเอ๋กับตลาดเล็กๆ ที่จุเต็มด้วยของกินแบบบ้านๆ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดนัด เพราะอ้อยหวานแวะไปวันอื่นนั้นไม่มีตลาดอยู่เลย

 

Photo:

หมี่ผัดแบบเมืองคอน ใครได้ลองแล้วจะติดใจ แต่ขอบอกนิดนึงว่า อย่าใช้กล่องโฟมเพราะหมอเขาเตือนกันให้แซ๊ด

 

Photo:

แพทย์เตือน! กล่องโฟมอันตราย ต้นเหตุมะเร็ง

ต้นเหตุการเกิดมะเร็งที่สำคัญนั้นเกิดจากอาหารต่างๆ ที่ถูกบรรจุใส่ไว้ในกล่องโฟม ซึ่งมี “สารสไตรีน (Styrene)” ซ่อนอยู่ ต่อให้การใช้กล่องโฟมสะดวกสบายแค่ไหน ก็ต้องแลกกับโรคมะเร็งที่พร้อมจะเข้าสู่ร่างกายได้ตลอดเวลา โดยจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายที่ละเล็กทีละน้อย ค่ยอๆ สะสมจนเป็นโรคร้ายในที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

Photo:

อย่างนี้ต้องยกนิ้วให้ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ไม่มีโทษต่อธรรมชาติ

 

Photo:

ขนมปะดา ขนมโบราณเมืองคอน ที่ดูเหมือนขนมโดนัทอันเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็ก เพราะไส้ข้างในมีรสเผ็ดนิดๆ อร่อยเหาะเลย แต่อย่ากินมาก เพราะของทอดกินมากไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน

ขอลอกจากมติชน (อีกแล้ว) มาให้อ่านเพิ่มเติม

ขนมปะดา ขนมโบราณคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กับขนมโดนัทของฝรั่ง แต่เป็นโดนัทที่มีไส้

….จาก คำบอกเล่าของคนเมืองนคร เขาบอกว่า เป็นขนมสูตรโบราณของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ส่วนมากมักจะทำในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือประเพณีสำคัญของชาวไทยมุสลิม ที่มักจะทำขนมพื้นบ้านชนิดนี้มาเลี้ยงแขก

ลักษณะ ของขนมจะทำจากแป้งข้าวเจ้า คลุกเคล้าผสมกับกล้วยน้ำว้าที่สุกงอม โดยนำแป้งมานวดกับกล้วยน้ำว้าจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนไส้ขนมจะประกอบด้วยสมุนไพรต่างๆ ได้แก่ ตะไคร้ หัวหอมแดง พริกไทย กระเทียม มะพร้าวขูด กะทิ กุ้งสด เกลือ และน้ำตาล นำมาบดส่วนผสมให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นก็นำไปผัดให้สุก

เวลาทำก็ นำแป้ง 2 ชิ้น มาประกบกัน โดยให้ไส้อยู่ตรงกลาง จากนั้นใช้นิ้วกดให้เป็นรู นำไปทอดในน้ำมันจนสุกมีสีเหลืองทอง ลักษณะขนมจะเหนียว นุ่ม ตัวแป้งมีความหวานและความหอมของกล้วยน้ำว้า ไส้รสเค็ม หวาน เจือเผ็ดเล็กๆ พอไม่ให้เลี่ยน หอมมะพร้าวและตะไคร้….

มีรายละเอียดอีกมากมาย หาอ่านได้ ที่นี่

ลูกกลมๆ ตรงกลางอ้อยหวานไม่แน่ใจว่าเป็นข้าวเหนียวทอดหรือไม่ ใครรู้บอกที ส่วนอีกถาดคิดว่าเป็นข้าวเม่าทอดที่ข้างในใส่กล้วยลูกเล็กๆ ทั้งลูก อีกอย่างที่ส่วนใหญ่จะขายพร้อมกันคือ จำปาดะทอด

 

Photo:

อีกสองสามวันต่อมา ได้ข่าวจากแม่ว่าเดี๋ยวนี้เมืองคอนมีตลาดนัดใหม่แล้วนะ! ไม่ได้การอ้อยหวานต้องปั่นจักรยานออกไปชมกันหน่อย ตลาดนัดใหม่นี้มีชื่อว่า ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

ก่อนอื่นอ้อยหวานขอยกเอาประวัติความเป็นมา ของชื่อต่างๆ ของเมืองนครศรีฯ ในสมัยโบราณ มาให้อ่านกัน

..ในอดีต มีชื่อเรียกดินแดนแถบนี้หลายชื่อ เช่น ในคัมภีร์มหานิเทศของอินเดีย ที่เขียนขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เรียกว่า "ตามพรลิงก์"หรืออาณาจักรตามพรลิงก์, บันทึกโบราณของเมืองจีนเรียก "เซี้ยะ-โท้ว (ถู-กวั่ว) ", "รักตะมฤติกา"ซึ่งล้วนหมายถึง "ดินแดนที่มีดินสีแดง", ประเทศตะวันตกนิยมเรียกกันมา จนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ว่า "ลิกอร์"สันนิษฐานว่าชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นผู้เรียกก่อน โดยเพี้ยนมาจากคำว่า "นคร"ส่วนชื่อ "นครศรีธรรมราช"มาจากพระนามของกษัตริย์ผู้ครองนครในอดีต มีพระนามว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช) มีความหมายว่า "นครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม"หรือ "เมืองแห่งพุทธธรรมของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่"

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพิเดีย

 

Photo:

‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’ กำหนดให้มีขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ที่ริมกำแพงเมืองเก่า ข้างสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ตลาดริมน้ำจุเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ส่วนใหญ่จะขายอาหาร

 

Photo:

สารพันของกิน

 

Photo:

ไข่ปลาตะเพียนต้มน้ำส้มโหนด (น้ำส้มสายชูที่หมักจากน้ำตาลหวานของตาลโตนด)

 

Photo:

ขนมหวานหลากหลายชนิดกับสาวน้อยหน้าหวาน

 

Photo:

หม้อและปิ่นโตเคลือบแบบโบราณ

 

Photo:

ซื้อแล้วนั่งทานริมคลอง  

 

Photo:

หรือจะมานั่งกินในสวนติดกัน แต่อย่าลืมเก็บขยะของตนเองไปทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อยก็แล้วกัน

 

Photo:

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรี การแสดงพื้นบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่าลืม! วันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ผ่านมาแถวเมืองคอน แวะได้เลยที่  ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

บล็อกนี้อ้อยหวานจะพาเพื่อนๆ ไปจักรยานปั่นเที่ยวเมืองคอนบ้านเกิดของอ้อยหวานกันต่อ เที่ยวตลอดเลยนะอ้อยหวาน ใครค่อนแคะก็ไม่รู้ แต่มันก็เป็นความจริง เพราะอ้อยหวานถือคติว่า การออกไปท่องเที่ยวคือการไปเรียนรู้ประสบการณ์จริง ที่หนังสือ หรือโรงเรียนให้ไม่ได้ การได้ดมกลิ่นสายลม สัมผัสแสงแดด เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น พบปะผู้คนต่างถิ่น ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา คือการเรียนรู้โลก และการเรียนรู้โลกคือการเรียนรู้ตัวเอง

สำหรับอ้อยหวานแล้ว ไม่มีวิธีใดในการท่องไปเรียนรู้โลกและตัวเอง ที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยว ขอย้ำ อีกที...ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยวอีกแล้ว อ้อ.. แต่ยังมีวิธีที่ดีพอๆ กัน คือการเดินเที่ยว อ้อยหวานอ่านบล็อกของคู่ออสเตรเลียที่ชอบเดินเที่ยวทั่วฝรั่งเศส อ่านบล็อกของเขาได้ ที่นี่และเคยผ่านตากับบางคนที่เดินทางทั่วยุโรบบนม้า! โหสุดยอดเลย!

 

Photo:

หลายคนบ่นว่าอากาศเมืองไทยร้อน ปั่นจักรยานก็แย่นะสิ ขอบอกว่าไม่แย่ ทำมาแล้ว หลายครั้งนับไม่ถ้วน ด้วยการออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมพระอาทิตย์ ดวงไฟต่างๆ ที่ศาลหลักเมืองนครศรีฯ ยังไม่ดับเลย เช้าๆ อากาศดี สดชื่น แสงสีก็สวยด้วยสำหรับการถ่ายรูป

 

Photo:

ปั่นเลยไปที่อื่นก่อน แล้วย้อนกลับมาถ่ายรูปที่ศาลหลักเมืองอีกครั้ง แม้วันนั้นฝนตกนิดหน่อย คนปั่นจักรยานก็ยังไม่ถอยเลย เรียกว่า ‘อิน’ แล้ว ก็ ‘อิน’ เลย

อ่านประวัติศาลหลักเมืองนครโดยละเอียดได้ ที่นี่

 

Photo:

ถูกใจกับกระถางธูปด้านหลังศาลหลักเมือง มีพระราหูอมจันทร์อยู่สามตน สวยแปลกตามาก

 

Photo:

ออกจากบ้านไปไม่ไกลก็เจอสวนแล้ว เมืองคอนนี้ดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีสวนยาง มีสวนมังคุด และอื่นๆ อีกมากมาย

อ้อยหวานเคยเขียนเล่าในบล็อกก่อนโน้นว่า คุ้นเคยกะยางพารามาตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพราะตาและพ่อต่างทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวมากับยางพารา เจอสวนยางทีไรก็ต้องหยุดชมทุกครั้ง

 

Photo:

คราวนี้มีนางแบบด้วย อ้อยหวานขออนุญาติถ่ายรูปป้า ก็เลยได้ยิ้มหวานเจี้ยบมาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมทำงานกันอย่างมีความสุขนะ (ยิ้มป้าบอก)

 

Photo:

เก็บรูปการตัดยางหรือกรีดยางมาให้แม่ (อดีตผู้รู้เมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว) ดู แม่บอกว่าโอ้เดี๋ยวนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก วิวัฒนาการยางพาราก้าวล้ำนำหน้าอย่างกับไอแพดเลย คงเป็นยางพันธ์ใหม่ที่กรีดตั้งแต่อายุน้อย ในยามสาย แม่ว่าอย่างงั้น เพราะแต่ก่อนต้องตื่นกันตั้งแต่ยามสองยามสามมากรีดยาง พอสายก็เก็บน้ำยางกันแล้ว นี่หกโมงเช้าป้าเพิ่งแต่งตัวสวยมาทำงาน ยางพาราก้าวไปไกลจริงๆ

 

Photo:

ทุกเช้าที่ออกไปโต๋เต๋บนจักรยาน อ้อยหวานจะสวนทางกับชาย (ขอย้ำ ‘ชาย’ เพราะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำอย่างนี้) บนรถมอเตอร์ไซด์ มือเดียวขับรถ อีกมือหนึ่งถือกรงนก (อย่างทะนุถนอม) สวนทางกะอ้อยหวานไปหลายคัน อย่างนี้ต้องตามไปดู แล้วรู้ว่าโก๋เขานัดกันที่คาเฟ่นก เก๋ไหม?

 

Photo:

นุ่งสโร่ง ขี่มอเตอร์ไซด์ ถือกรงนกหัวจุก เปิดตำราโก๋เมืองคอน

หนุ่มๆ ก็เม้าส์กันไป ส่วนนกๆ ก็ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวไม่แพ้กัน

 

Photo:

อีกมุมหนึ่งของเมืองคอน อ้อยหวานเคยพามาแล้วในบล็อกเก่าเก็บ แต่อยากให้ชมอีก ‘ปากนคร’ นี้มาบ่อย เพราะปั่นสิบสองกิโลเมตรจากบ้าน ไปกลับยี่สิบสี่กิโล กำลังพอเหมาะ ได้เหงื่อดี วิวสวย บรรยากาศสงบ สุดปลายปากนครจะมีศาลาหลวงปู่ทวด และสะพานตัวที (T) ที่ทอดตัวยาวออกไปในทะเล

 

Photo:

ยามเช้าสีสันสวยสุดใจ มีสีชมพูนิดๆ

 

Photo:

อีกด้านหนึ่งมีนักปั่นจองกันเต็ม

 

Photo:

ปั่นกันมาจากในตัวเมือง แล้วปั่นกลับ.. สนุกกว่าขี่มอเยอร์ไซด์อีกนะ

 

Photo:

รูปนี้พยายามทำให้เป็นรูปหัวใจพระอาทิตย์ แต่มีมือเดียว อีกมือถือกล้องถ่ายรูป เลยมีมีคนบอกว่าเหมือนปลาวาฬกระโดดขึ้นมางับพระอาทิตย์ ไม่รู้ดูกันยังไง!!

 

Photo:

กลับมาที่ลานวัดพระธาตุนครศรีธรรมราชกันอีกครั้ง เพราะอยากบอกข่าวงานใหม่ล่าสุด ถนนคนเดินที่มีชื่อเก๋ว่า ‘หลาดหน้าพระธาตุ’

 

Photo:

เอารูปที่น้องส่งมา ลงให้ดู ว่าสนุกสนาน น่าสนใจแค่ไหน

 

Photo:

ด้วยสโลแกน “ ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม”

 

Photo:

หลาดหน้าพระธาตุจัดขึ้นทุกวันเสาร์ 16.00-21.00 น. อย่าพลาดชม หากแวะไปที่เมืองคอน

 

Photo:

ไหว้พระเสร็จก็เดินชมตลาดต่อ ขอบอกว่าตอนนี้องค์พระธาตุมีโครงเหล็กล้อมอีกแล้ว! เป็นเพราะเหตุอันใด อ้อยหวานหารู้ไม่ แต่ขอจบบล็อกนี้ เพียงนี้แหละ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

สู่อ้อมกอดของขุนเขาที่บ้านคีรีวง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

นอกจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือพระธาตุเมืองคอนแล้ว ของดีของนครศรีธรรมราชยังมีอีกมากมาย วันนี้อ้อยหวานเอาสถานที่ดี้ดีอีกแห่งมาให้เพื่อนๆ ชมกัน หลายคนคงร้องบอกว่า ไปมาแล้วจ้า ก็วันเกิดเว็ปที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ก็จัดกันสดๆ ที่คีรีวง แต่รีวิวของอ้อยหวานก็จะไม่เหมือนใคร เพราะจะเป็นรีวิวเที่ยวคีรีวงกับสองล้อ ที่ภาษาใต้เรียกว่า รถถีบ เอ้ามาเร็วๆ มาถีบรถถีบสู่อ้อมกอดของขุนเขาที่คีรีวงกัน

 

วันนี้เป็นวันแรกในรอบสองอาทิตย์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วฟ้าใสไร้ฝน อ้อยหวานเลยลั่นล้าชวนคุณผู้ชายที่เพิ่งมาถึงเมืองไทย ไปเราไปปั่นรถถีบจากบ้านที่ท่าวัง อำเภอเมืองนครศรี ไปบ้านคีรีวง 25 กิโลเมตร และปั่นเที่ยว+หลงที่คีรีวงกันอีก 6-7 กิโล

 

จากนครศรีไปปากทางบ้านคีรีวงต้องปั่นบนถนนใหญ่ เช้าวันเสาร์รถไม่มากนัก แต่ก็ไม่มีวิวให้ถ่ายรูป แต่จากถนนใหญ่ตรงปากทางเข้าสู่บ้านคีรีวง (ทางเข้าข้างหลวงพ่อทวด) เป็นเส้นทางที่สวยมาก เหมือนค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่อ้อมกอดของขุนเขาจริงๆ เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกับว่าจะพาเราสู่แดนหิมพานต์ ไปกับจักรยานเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้

เป็นเส้นทางสิบกิโลเมตรที่สวยมากมาย

 

ข้อมูลบ้านคีรีวง จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

แหล่งอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย รางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน  เป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ตั้งอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตสุขสงบแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทำสวน โดยทำสวนแบบผสมผสาน ที่เรียกว่า สวนสมรม ปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิดคละกันในสวนเดียวกัน เช่น สะตอ มังคุด ทุเรียน หมาก พลู ฯลฯ  ภายในชุมชนมีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าที่ระลึกขึ้นชื่อหลากชนิด เช่น ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ สบู่สมุนไพรเปลือกมังคุด  ทุเรียนกวน ฯลฯ

 

นักท่องเที่ยวสามารถศึกษา เรียนรู้ ดูงาน ชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ พักแบบโฮมสเตย์ หรือเลือกพักรีสอร์ท ติดธารน้ำตกได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูผลไม้ ระหว่างเดือน กรกฎาคม – กันยายน จะได้ลิ้มรสผลไม้สดๆ นอกจากนี้มีบริการเดินป่าศึกษาธรรมชาติสู่ยอดเขาหลวงสำหรับ  ผู้ที่หลงใหลธรรมชาติชอบผจญภัย สอบถามข้อมูลติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านคีรีวง โทร.และ  0-7553-3370 และ 0-7553-3113

ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไชด์ของบ้านคีรีวงได้ที่นี่http://www.kiriwonggroup.com/

 

ในอ้อมกอดของธรรมชาติ เสียดายที่อ้อยหวานไม่ได้เตรียมตัวไปเล่นน้ำ ไปถึงเห็นน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาแล้วอยากลงแช่บ้าง

 

เขียวขจี

 

เล่นน้ำกันสนุกจริงๆ

 

เขาลุยได้

 

เราลุยบ้าง แต่รถไม่แรงอย่างเขา

 

สำหรับคนที่ต้องการปั่นจักรยานเล่นรอบๆ บ้านคีรีวง ก็ทำได้ ตรงไปเลยที่บ้านนายทั่ง

 

ไร่สวนส่วนของบ้านคีรีวงจะเป็นแบบสวนสมรม โดยมีพืชหลักคือมังคุด เราตามหามังคุดที่คิดว่าอาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง

 

บ้านคีรีวงมีธรรมชาติเกึอบทุกอย่างให้ไปค้นหา นอกจากสวนมังคุดที่เป็นพืชหลักแล้ว ก็ยังมีสวนปาล์มอีกด้วย

 

เราสองคนปั่นไปเรื่อยตามใจอยาก เส้นทางส่วนใหญ่มีต้นไม้ร่มครึ้ม

 

นอกจากธรรมชาติที่สวยงดงามแล้ว บ้านคีรีวงยังมีสินค้าจากธรรมชาติและสินค้าทำมือมากมาย หลากหลาย

 

ไว้ให้เลือกซื้อ เลือกช็อป

 

อย่าลืมแวะมาให้ขุนเขาและธรรมชาติโอบกอดที่บ้านคีรีวงกันนะค่ะ มาสูดอากาศดี้ดี นั่งฟังสายน้ำไหล หรือปั่นจักรยานเที่ยว ครั้งเดียวไม่เคยพอ แล้วใจจะถวิลหาขุนเขาอยู่ร่ำไป

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

 

ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง มันปิ้ง ปิ้ง จริงๆ นะ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

มีคนสนใจสอบถามอ้อยหวานมาว่าปั่นจักรยานเที่ยวจะเริ่มต้นยังไง ทำไรดี คำตอบคือ ไม่ต้องคิดมาก อยากลองก็คว้าจักรยานเล่นลิ่วออกไปเลย มีจักรยานอะไรก็เอาคันนั้นออกไป ทัวร์ริ่งได้ทุกแบบ ไม่จำเพาะเจาะจง ไม่ต้องเก๋เท่ห์ระเบิด ยังไม่มีจักรยานก็เลียวซ้ายแลขวา ขอยืมเพื่อนไปก่อน ยิ่งถ้าเพื่อนมีหลายคันก็ขอยืมลองปั่นไปให้หมดทุกคัน ไม่ต้องสนใจตาเขียวๆ ของเพื่อน (แต่ต้องเป็นเพื่อนรักนะเออ) เริ่มแรกก็ปั่นเที่ยวแถวบ้าน จากนั้นก็ไปไกลหน่อย เช่นไปเยี่ยมญาติ ไปหาของกินต่างถิ่น หรือหาเรื่องไปทุกที่ พอมีประสบการณ์สักนิดแล้วจะคิดได้เอง ไว้วันหลังอ้อยหวานจะจัดหนักไปเลย หลักสูตรว่าด้วยการทัวร์ริ่งกับจักรยาน

 

ในส่วนตัวของอ้อยหวานชอบจักรยานพับได้ เพราะสะดวกในการขนย้ายไปตามที่ต่างๆ บ่อยครั้งเราต้องแพ็คจักรยานขึ้นเครื่องบิน นั่งรถไฟ ลงเรือ ไปปั่นเที่ยวที่อื่นที่ไกลบ้านออกไป ขอบอกว่าปั่นได้ดีเท่าๆ จักรยานธรรมดา ล้อเล็กๆ ของจักรยานพับได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดในการปั่นเที่ยว ในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านไป อ้อยหวานปั่นเที่ยวรวมระยะทาง 2500 กว่ากิโลเมตร รวมทั้งทริปเที่ยวไทยสองทริป และทริปเที่ยวในแคนนาดา จักรยานพับได้ทั้งสองคัน สองยี่ห้อ ของอ้อยหวานไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีงอแง

 

ทัวร์ริ่งกับจักรยานทริบนี้อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรกว่าเน้นที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่จุดเริ่มต้นทริปคือนครศรีธรรมราช อ้อยหวานกับคุณผู้ชายที่บ้านได้เริ่มซ้อมปั่นกันด้วยทริปสู่อ้อมกอดของขุมเขาที่บ้านคีรีวงพอออกทริปทางไกลจริงๆ เราก็ไม่อยากปั่นซ้ำรอยเดิม และมีน้องอาสาขับรถไปส่งแถวๆ คีรีวง กะกันว่าจะเริ่มต้นทริปโดยการปั่นขื้นเขาผ่านลานสกา แล้วเลี้ยวซ้ายอ้อมเขาไปทุ่งสง ซื่งถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางหนื่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เช้าวันนั้นฝนตกปรอยๆ แต่เช้า ไม่เป็นการดีสำหรับปั่นขึ้นเขา (ข้ออ้างของคุณผู้ชาย) ว่าแล้วเราก็ไปเริ่มสตาร์ทกันบนเขาเลยดีกว่า ง่ายกว่ามาก ว่างั้นเถอะ โอกาสหน้ายังมีและลานสกาก็ไม่หนีไปไหน ติดหนี้ไว้ก่อนนะจ้ะ จะต้องมีการใช้หนี้นี้แน่นอน!

 

แต่กลุ่มนักปั่นในรูปข้างบนเก่งจริงๆ ไม่ติดหนี้ลานสกาเลย ทยอยปั่นขึ้นเขากันท่ามกลางสายฝนปรอยๆ แต่ละคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า เพราะได้รับรางวัลจากความใฝ่ฝันและความมุ่งมั่นของตนเอง จุดเริ่มต้นของอ้อยหวานและคุณผู้ชายคือจุดพักของนักปั่นกลุ่มนี้ เป็นความบังเอิญแท้ๆ เราเลยได้รูปหมู่ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์

 

แต่การไปเริ่มที่บนเขาก็ไม่ใช่ว่าเส้นทางตลอดสายจะลงเขา มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ จริงๆ แล้วมันขื้นเนินลงเนินตลอด แต่เนินโหดสุดคือเนินที่เรานั่งรถขื้นมา

คุณผู้ชายหาถนนสายเล็กได้จากแผนที่กูเกิลเราต้องใช้ GPS จากโทรศัพท์มือถือช่วยตลอด เพราะซอกแซก วกวน หากไม่มี GPS ช่วยก็คงต้องหลงอยู่ในป่าสวนยางแน่นอน

 

เส้นทางเลี้ยวซ้ายขวา ผ่านชุมชน ผู้คนมองมายังเราด้วยสายตาที่แปลกใจและมีคำถาม ทำอะไร มาจากไหน จะไปไหน ก็จักรยานสองคันที่มีกระเป๋าสีเหลืองใบโตห้อยแขวนอยู่สองข้าง ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ ผ่านเขตชุมชนมาได้หน่อยถนนก็เปลี่ยนมาเป็นทางดินที่กำลังเละได้ที่ เพราะสายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่กลางดึก ถึงเช้าก็ยังปรอยๆ ไม่ถึงกับกระหน่ำลงมา แต่เป็นละอองฝอยอยู่ทั่วไป...

ทำให้มีสายเมฆสายหมอกคลอเคลียหยอกล้อกับขุมเขา เราสองคนเห็นพ้องกันว่า ช่างเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง ต้องมาดูเองกับสองตา เพราะของจริงสวยกว่าในภาพมากมาย

 

เทือกเขานครศรีธรรมราช ตั้งเป็นแกนกลางของคาบสมุทรไทย (ภาคใต้ตอนกลาง) ทอดตัวในแนวเหนือ - ใต้ โดยเริ่มจากเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพงัน เกาะสมุย เกาะกะเต็น มีบางส่วนที่จมลงไปในทะเล เรียกส่วนนี้ว่า ช่องแคบสมุย โดยมาโผล่ขึ้นที่อำเภอดอนสัก เขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีและอำเภอขนอม เขตจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง โดยเทือกเขาที่ผ่านเขตจังหวัดพัทลุงและตรังถือเป็นที่กั้นเขตแดนระหว่าง 2 จังหวัดนี้ มักเรียกอีกชื่อว่า "เทือกเขาบรรทัด"จากนั้น แนวเทือกเขายาวลงไปยังเขตแดนระหว่างจังหวัดสตูลกับประเทศมาเลเซีย โดยบรรจบกับเทือกเขาสันกาลาคีรีที่ภูเขาซีนา จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทยกับมาเลเซีย

แนวเทือกเขานครศรีธรรมราชนับเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยาวที่สุดในภาคใต้ โดยมียอดเขาหลวงซึ่งมีความสูงประมาณ 2,435 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาและสูงที่สุดในภาคใต้ ตั้งอยู่อยู่ในเขตอำเภอลานสะกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เปรียบเสมือนเป็นหลังคาสีเขียวของภาคใต้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ขอบคุณวิกิพีเดีย

 

เราซอกแซกขึ้นลงเนินเขา ผ่านสวนยางมากมาย เพราะสวนยางนั้นฮิตติดอันดับหนึ่งของแถบนี้ อ้อยหวานชื่นชอบสวนยางเป็นพิเศษ และคิดว่าสวนยางสวยอย่างมีเสน่ห์และมีศิลป์ ปั่นจักรยานท่ามกลางป่ายางเป็นสิ่งที่วิเศษยิ่ง เหมือนกับรวมเอาการชมธรรมชาติและงานศิลปะเข้าด้วยกัน ละอองฝนเติมแต่งบรรยากาศให้เหมือนกับอยู่ในป่าลึกลับ อ้อยหวานหยุดอยู่ตรงนี้เนิ่นนาน รั้งรอ เก็บภาพตรงหน้า นึกถึงคนที่ตื่นเช้ามาทำงานหรือทำมาหากินในสวนยาง ขอบอกว่าช่างเป็นที่ทำงานที่สวยจริงๆ

 

อ้อยหวานคุ้นเคยกับยางพาราและสวนยางมาตั้งแต่เกิด ทั้งพ่อและตาทำงานเลี้ยงครอบครัวกับยางพารามาช้านาน แม้พ่อจะเลิกลามานานแล้ว แต่เรื่องราวและกลิ่นยางยังติดอยู่ในความทรงจำ ภาพที่แม่เคยเล่าตอนติดตามตาไปดูแลสวนยาง หวนกลับมาวิบวิบวับวับในความทรงจำ เลือนลางดุจภาพในสายหมอก แต่แจ่มชัดในความทรงจำ อีกทั้งภาพที่เคยวิ่งเล่นกับน้องๆ ท่ามกลางกองแผ่นยางสีคล้ำและมีกลิ่นฉุนแรง มาปรากฏราวกับภาพฝัน เลือนลางและแจ่มชัดสลับไปมา ยืนงงงันต้องมนต์สวนยางอยู่นานจนคนรอต้องร้องเรียก เมื่อเก็บภาพความทรงจำไว้หนำใจแล้ว สองล้อก็มุ่งหน้าไปต่อ

 

เพื่อไปหยุดดื่มด่ำกับภาพฝันริมทางอีกเป็นระยะมากับสองล้อเท่านั้นที่จะทำได้เยี่ยงนี้

 

อ้อยหวานขอแนบแผนที่เส้นทางปั่นของเรามาด้วย เผื่อมีคนอยากตามรอย แนะนำเลยเส้นทางนี้สวยมากมาย แถมรถน้อยด้วย จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือทุ่งสง ซึ่งอยู่คนละฝั่งเขากับนครศรีธรรมราชและลานสกา เส้นทางจืงโอบกอดภูเขาหรือถูกภูเขาโอบกอดอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า แบร์ ฮัก (bear hug) อ้อมกอดหมีที่รัดรึง กระชับแน่น และอบอุ่น

 

เส้นทางนี้มีน้ำตกให้หยุดแวะชมอยู่หลายแห่ง แต่ขอบอกว่าแต่ละแห่งต้องปั่นขึ้นเขาไปหลายกิโล เราปั่นเข้าชมที่เดียว แล้วอ้อยหวานไปเลื่อนล้มเกือบตกลงไปในน้ำให้หวาดเสียวเล่น น้ำในน้ำตกค่อนข้างแรงเพราะฝนตกมาหลายวัน ไปถึง โรงแรมชิโนเฮ้าส์ทุ่งสงก็มอมแมมทั้งคนและจักรยาน

 

ดอกไม้ริมทางของวันนี้

 

ภาพเอ็คชั่นของวันนี้

โดนเจ้าถิ่นไล่ตั้งแต่วันแรกเลย

 

โปรดติดตามปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป

 

อ่านปั่นเที่ยวไทยตอนที่แล้วได้ที่นี่

รางวัลแด่คนช่างฝัน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของอ้อยหวาน แม้จะเป็นเด็กที่จากบ้านไปเรียนหนังสือที่เมืองกรุงตั้งแต่เล็กๆ แต่นครก็ยังเป็นสถานที่ที่อ้อยหวานเรียกว่าบ้าน

บ้านในภาษาอังกฤษมีใช้อยู่สองคำ คือ เฮ้าส์ (house) และ โฮม (home) แปลง่ายๆ ได้ว่า เฮ้าส์ (house) คือบ้านที่อยู่อาศัย โฮม (home) คือ บ้านใจ ตามคำคมยอดนิยมของฝรั่งที่ว่า "Home Is Where Your Heart Is"

อ้อยหวานสามารถเรียกนครศรีฯ ว่า มาย โฮม ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นบ้านใจที่มีพ่อแม่รออยู่

ตอนเด็กๆ เวลานั่งรถไฟกลับบ้านซึ่งใช้เวลายาวนานมาก ออกจากกรุงเทพตอนบ่าย มาถึงนครเกือบเที่ยงของวันถัดมา เมื่อรถไฟวิ่งผ่านวัดพระธาตุในระยะไกล หัวใจน้อยๆ พองโต

..อา..ถึงบ้านแล้ว..  น้ำตาเอ่อล้นท่วมสองตา

ใจผูกพันไม่เคยเลือน กลับบ้านทุกคราก็ต้องแวะไปเยือน คราวนี้อยู่บ้านนานหน่อย ก็ไปบ่อย ปั่นจักรยานไปแต่เช้า ไปนั่งเงียบๆ ชมพระธาตุ ดูใบไม้ นับเม็ดทราย ชมนก ชมไม้ บ้างก็สวดมนต์ ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง องค์พระธาตุก็มีโครงไม้ไผ่ที่หุ้มมาเกือบสองปี จนวันสุดท้ายที่ปั่นจักรยานออกไปชม อ้อยหวานก็ต้องร้องว้าววว พระธาตุสวยจัง โครงไม้ได้อันตรธาน หายไปจนหมดสิ้น เหลือแต่องค์พระธาตุอันงดงาม  แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เก็บภาพสวยมาได้ภาพเดียว คือภาพในบล็อกที่แล้วสามสี่วันมานี้ อ้อยหวานเกิดอาการคิดถึงบ้านขึ้นมา เลยได้นั่งวาดภาพสีน้ำตามแบบฉบับของอ้อยหวาน คือแบบหวานเย็น รูปหนึ่งใช้เวลาหลายวัน พระธาตุในดวงใจอ้อยหวาน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็รำลึกถึงอยู่เสมอ

 

Photo:

มีอยู่เช้าหนึ่ง อ้อยหวานแวะไปที่พระธาตุเช่นทุกครั้ง แต่เมื่อเดินผ่านประตูวัดเข้าไป ก็ต้องตกใจ เกิดอะไรขึ้นทำไมคนเต็มวัดเลย! ที่จอดรถของวัดก็มีรถทัวร์คันใหญ่อยู่เต็มเช่นกัน ต่อมาถึงได้รู้ว่าเป็นผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้าน เขามาแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน

 

Photo:

ขอลอกข้อเขียนจากมติชน ออนไลน์ มาให้อ่านกัน...

...นายเฉิน กล่าวผ่านล่ามว่า ชาวมาเลเซียที่เดินทางมาครั้งนี้ จะมีทั้งเชื้อสายไทยและเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาพุทธ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศมาเลเซีย โดยทุกคนมีความเชื่อว่า จะต้องเดินทางมากราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชปีละ 1 ครั้ง จนครบ 9 ปี หลังตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี จะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีโชคลาภ และชีวิตครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ในขณะที่บางครอบครัวที่บรรพบุรุษเป็นคนไทยได้นำบุตรหลานมาบรรพชาอุปสมบทที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

“บางคนมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งในแต่ละปีจะเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 20 คัน รถบัส สำหรับปีนี้ จะมีทยอยเดินทางมาทุกเสาร์ อาทิตย์ โดยแวะที่วัดพระมหาธาตุฯ ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง จากนั้นแวะรับประทานอาหาร ซื้อเครื่องประดับและสินค้าหัตถกรรม เดินทางกลับไปพักค้างคืนที่ อ.หาดใหญ่ หรือในตัวเมืองสงขลา” นายเฉินกล่าวผ่านล่าม

ฉบับเต็มอ่านได้ ที่นี่

ขอบคุณค่ะ

 

Photo:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุหมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามา เย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน

ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 

Photo:

แขกต่างชาติเขาตระเตรียมแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน คนปั่นจักรยานเลยต้องเดินเก็บเศษขยะหนังสือพิมพ์มาเลย์ฉบับภาษาจีน ที่แขกเอามาใช้ลองนั่งฟังพระสวดก่อนที่จะปลิวว่อนไปทั่วลานวัด

 

Photo:

นอกจากพระธาตุแล้ว นครศรีฯ ยังมี ‘อันซีน ไทยแลนด์’ อีกด้วยนะจ้ะ

เมื่อพี่สาวสุดที่รักลงภาพโบสถ์หลังเก่าที่มีเถาวัลย์เกาะอยู่เต็ม สวยแปลกจนอ้อยหวานต้องตะโกนถามไปว่า “ที่นั่นที่ใด พาน้องไปให้เห็นกะตาได้ไหม”

 

Photo:

แล้วเช้าวันหนึ่งก็มีคนเห็นสองจักรยานโลดลิ่ว ผ่านดินแดนที่ห่างไกล (แต่ใกล้นครฯ นิดเดียว) ที่อ้อยหวานบอกว่า ‘ดินแดนที่ห่างไกล’ นั้นหมายถึง ‘ห่างไกลจากผู้คนและความวุ่นวายจอแจ’ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Off The Beaten Track’ (มาแล้ว..ภาษาอังกฤษ วันละคำ!!!)

 

Photo:

‘Off The Beaten Track’ จริงๆ หนูช๊อบ..ชอบ และการปั่นจักรยานเที่ยวชมสถานที่เช่นนี้ เป็นการเคารพสถานที่นั้นๆ อย่างจริงใจ การไปชมสถานที่ที่เงียบสงบ เราก็อย่าได้ขนรถรา ตะบึงแล่นไป จนฝุ่นกระจุย ความสงบเงียบกระจายผู้คนและนกกาผวาดผวา

ขอร้องอย่าทำ!!!

 

Photo:

วัดไพศาลสถิตเป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากพยูน อำเภอเมือง นครศรีฯ จดไว้เลย...

 

Photo:

ธรรมชาติเรียกคืน

 

Photo:

เก่าแก่ แต่..งดงามตามธรรมชาติ

 

Photo:

ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

 

Photo:

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในโบสถ์ เป็นภาพที่งดงามมาก สวย สงบ และ งดงาม

 

Photo:

เก่า กับ ใหม่

อ้อยหวานขอขอบคุณพี่สาวที่นำทางไปชม ‘อันซีน ไทยแลนด์’ ในครั้งนี้ ขอบคุณมากค่ะ แล้วพบเจออะไรอีก ก็อย่าลืมกระซิบบอกกันด้วยนะ!

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

 

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

 

อ่านบล็อก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรืพระธาตุเมืองคอน ของอ้อยหวานได้ที่นี่

วันนี้ที่นครศรีธรรมราช

ฉันรัก..เมืองคอน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

กลับบ้านเกิดเมืองคอนคราวนี้ อ้อยหวานได้ปั่นจักรยานภายในตัวอำเภอเสียจนเรียกว่าปรุ เข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ เป็นว่าเล่น เพราะกลับไปนอนเล่นที่บ้านเป็นเดือน และแม่สั่งนักสั่งหนาว่า ‘อย่าไปไหนไกล’ จนกว่าจะมีเพื่อนร่วมปั่น!

เช้าวันแรกที่บ้านเกิด สองล้อคู่ใจที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะอ้อยหวานซื้อหามาหลายปีแล้วทิ้งไว้ที่บ้าน กลับมาจะได้มีจักรยานปั่นเที่ยว เมื่อเปิดประตูแล้วทะยานออกไป อ้อยหวานรู้สึกเลยว่า จักรยานมันดีใจ ล้อหมุนเริงร่า ระริก ระรี้ ขึ้นมาทีเดียว ใจนึกสงสารมัน (จักรยาน) ก็เลยสัญญากับมันว่า กลับบ้านมาคราวนี้จะพาเที่ยวทุกเช้าให้หนำใจไปเลย

เช้าแรกก็ต้องแวะมาที่นี่ มายกมือไหว้พระธาตุ อธิษฐานของให้เดินทางปลอดภัย ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน นั่งรถ ขึ้นเครื่องบิน

ดวงตะวันขึ้นจากทางหน้าวัด คนที่อยากถ่ายภาพพระธาตุกับพระทิตย์ขึ้นยามเช้า ก็ต้องมาเก็บภาพหลังวัด เสียดายที่มีสายไฟฟ้ารกสายตา ถ้าเอาฝังใต้ดินคงจะเป็นการดี

 

Photo:

หลังจากไหว้พระธาตุแล้ว อ้อยหวานก็หมุนล้อไปตามซอกซอยหลังพระธาต ถิ่นที่ตัวเองชื่นชอบและมาบ่อยๆ เมื่อหลุดออกจากซอยมาที่ถนนตัดใหม่หรือถนนเลียบทางรถไฟ ก็ต้องร้องว้าว!!! เส้นทางจักรยานสีเขียวสวยงดงาม สายแรกของนครศรีธรรมราชเลยนะเนี่ย ดีใจจนหน้าบาน ไม่ได้การแล้ว อย่างนี้ต้องลองปั่นทดสอบเส้นทางกันสักหน่อย

 

Photo:

เส้นทางสีเขียวนี้มีระยะทางประมาณ 6.3 กิโลเมตร อ้อยหวานเลยปั่นไปกลับเสียเลย เริ่มแรกก็ไปได้สวย แต่….

 

Photo:

ชะอุ้ย ขอโทษที!!

กระผมอ่านหนังสือไม่ออก

 

Photo:

@@##**##$$%%

งงเลยละเธอ

 

Photo:

ภายในเช้าเดียวกันนี้ นับได้หกคัน พอดิบพอดี

ยัง ยังไม่หมด มีรถมอเยอร์ไซด์มาวิ่งบนทางจักรยานหลายคันด้วย แต่ถ่ายรูปไม่ทัน ทั้งๆ ที่เขามีทำทางรถมอเตอร์ไซด์ไว้ให้ด้วย แถมมีวิ่งสวนทางมาบนทางจักรยานอีกด้วย เห็นแล้วงง!

***ตามความคิดเห็นส่วนตัวของอ้อยหวาน ...ประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่นับกันที่ประชาชนมีโทรศัพท์มือถือใช้กันทุกคน มีไอโฟนใช้กันมากมาย เด็กๆ มีคอมเล่นกันกี่คน ในประเทศมีคลื่นโทรศัพท์มือถือ  3G, 4G, 5G หรือ เอาไปเลย 10G มีอะไรต่อมิอะไรทุกอย่างที่เมืองนอกเขามีกัน สิ่งเหล่านั้นมันเป็นความเจริญทางวัตถุ ที่ไม่เสริมสร้างความเจริญทางจิตใจ หรือความเจริญทางการดำรงวิถีชีวิตได้เลย

...ประเทศที่เจริญแล้ว เขานับกันที่ ประชาชนมีระเบียบ เคารพต่อกฎเกณฑ์ เคารพกฎกติกาของสังคมและสิทธิผู้อื่น มากแค่ไหน ต่างหากเล่า

 

Photo:

บ่นไปก็ไลพ์บอย ไปเดินตลาดกันดีกว่า เช้าวันหนึ่งอ้อยหวานออกปั่นเช่นเคย ไปทางใหม่ที่ไม่เคยไป แล้วไปจ๊ะเอ๋กับตลาดเล็กๆ ที่จุเต็มด้วยของกินแบบบ้านๆ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดนัด เพราะอ้อยหวานแวะไปวันอื่นนั้นไม่มีตลาดอยู่เลย

 

Photo:

หมี่ผัดแบบเมืองคอน ใครได้ลองแล้วจะติดใจ แต่ขอบอกนิดนึงว่า อย่าใช้กล่องโฟมเพราะหมอเขาเตือนกันให้แซ๊ด

 

Photo:

แพทย์เตือน! กล่องโฟมอันตราย ต้นเหตุมะเร็ง

ต้นเหตุการเกิดมะเร็งที่สำคัญนั้นเกิดจากอาหารต่างๆ ที่ถูกบรรจุใส่ไว้ในกล่องโฟม ซึ่งมี “สารสไตรีน (Styrene)” ซ่อนอยู่ ต่อให้การใช้กล่องโฟมสะดวกสบายแค่ไหน ก็ต้องแลกกับโรคมะเร็งที่พร้อมจะเข้าสู่ร่างกายได้ตลอดเวลา โดยจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายที่ละเล็กทีละน้อย ค่ยอๆ สะสมจนเป็นโรคร้ายในที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

Photo:

อย่างนี้ต้องยกนิ้วให้ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ไม่มีโทษต่อธรรมชาติ

 

Photo:

ขนมปะดา ขนมโบราณเมืองคอน ที่ดูเหมือนขนมโดนัทอันเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็ก เพราะไส้ข้างในมีรสเผ็ดนิดๆ อร่อยเหาะเลย แต่อย่ากินมาก เพราะของทอดกินมากไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน

ขอลอกจากมติชน (อีกแล้ว) มาให้อ่านเพิ่มเติม

ขนมปะดา ขนมโบราณคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กับขนมโดนัทของฝรั่ง แต่เป็นโดนัทที่มีไส้

….จาก คำบอกเล่าของคนเมืองนคร เขาบอกว่า เป็นขนมสูตรโบราณของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ส่วนมากมักจะทำในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือประเพณีสำคัญของชาวไทยมุสลิม ที่มักจะทำขนมพื้นบ้านชนิดนี้มาเลี้ยงแขก

ลักษณะ ของขนมจะทำจากแป้งข้าวเจ้า คลุกเคล้าผสมกับกล้วยน้ำว้าที่สุกงอม โดยนำแป้งมานวดกับกล้วยน้ำว้าจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนไส้ขนมจะประกอบด้วยสมุนไพรต่างๆ ได้แก่ ตะไคร้ หัวหอมแดง พริกไทย กระเทียม มะพร้าวขูด กะทิ กุ้งสด เกลือ และน้ำตาล นำมาบดส่วนผสมให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นก็นำไปผัดให้สุก

เวลาทำก็ นำแป้ง 2 ชิ้น มาประกบกัน โดยให้ไส้อยู่ตรงกลาง จากนั้นใช้นิ้วกดให้เป็นรู นำไปทอดในน้ำมันจนสุกมีสีเหลืองทอง ลักษณะขนมจะเหนียว นุ่ม ตัวแป้งมีความหวานและความหอมของกล้วยน้ำว้า ไส้รสเค็ม หวาน เจือเผ็ดเล็กๆ พอไม่ให้เลี่ยน หอมมะพร้าวและตะไคร้….

มีรายละเอียดอีกมากมาย หาอ่านได้ ที่นี่

ลูกกลมๆ ตรงกลางอ้อยหวานไม่แน่ใจว่าเป็นข้าวเหนียวทอดหรือไม่ ใครรู้บอกที ส่วนอีกถาดคิดว่าเป็นข้าวเม่าทอดที่ข้างในใส่กล้วยลูกเล็กๆ ทั้งลูก อีกอย่างที่ส่วนใหญ่จะขายพร้อมกันคือ จำปาดะทอด

 

Photo:

อีกสองสามวันต่อมา ได้ข่าวจากแม่ว่าเดี๋ยวนี้เมืองคอนมีตลาดนัดใหม่แล้วนะ! ไม่ได้การอ้อยหวานต้องปั่นจักรยานออกไปชมกันหน่อย ตลาดนัดใหม่นี้มีชื่อว่า ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

ก่อนอื่นอ้อยหวานขอยกเอาประวัติความเป็นมา ของชื่อต่างๆ ของเมืองนครศรีฯ ในสมัยโบราณ มาให้อ่านกัน

..ในอดีต มีชื่อเรียกดินแดนแถบนี้หลายชื่อ เช่น ในคัมภีร์มหานิเทศของอินเดีย ที่เขียนขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เรียกว่า "ตามพรลิงก์"หรืออาณาจักรตามพรลิงก์, บันทึกโบราณของเมืองจีนเรียก "เซี้ยะ-โท้ว (ถู-กวั่ว) ", "รักตะมฤติกา"ซึ่งล้วนหมายถึง "ดินแดนที่มีดินสีแดง", ประเทศตะวันตกนิยมเรียกกันมา จนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ว่า "ลิกอร์"สันนิษฐานว่าชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นผู้เรียกก่อน โดยเพี้ยนมาจากคำว่า "นคร"ส่วนชื่อ "นครศรีธรรมราช"มาจากพระนามของกษัตริย์ผู้ครองนครในอดีต มีพระนามว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช) มีความหมายว่า "นครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม"หรือ "เมืองแห่งพุทธธรรมของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่"

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพิเดีย

 

Photo:

‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’ กำหนดให้มีขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ที่ริมกำแพงเมืองเก่า ข้างสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ตลาดริมน้ำจุเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ส่วนใหญ่จะขายอาหาร

 

Photo:

สารพันของกิน

 

Photo:

ไข่ปลาตะเพียนต้มน้ำส้มโหนด (น้ำส้มสายชูที่หมักจากน้ำตาลหวานของตาลโตนด)

 

Photo:

ขนมหวานหลากหลายชนิดกับสาวน้อยหน้าหวาน

 

Photo:

หม้อและปิ่นโตเคลือบแบบโบราณ

 

Photo:

ซื้อแล้วนั่งทานริมคลอง  

 

Photo:

หรือจะมานั่งกินในสวนติดกัน แต่อย่าลืมเก็บขยะของตนเองไปทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อยก็แล้วกัน

 

Photo:

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรี การแสดงพื้นบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่าลืม! วันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ผ่านมาแถวเมืองคอน แวะได้เลยที่  ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

บล็อกนี้อ้อยหวานจะพาเพื่อนๆ ไปจักรยานปั่นเที่ยวเมืองคอนบ้านเกิดของอ้อยหวานกันต่อ เที่ยวตลอดเลยนะอ้อยหวาน ใครค่อนแคะก็ไม่รู้ แต่มันก็เป็นความจริง เพราะอ้อยหวานถือคติว่า การออกไปท่องเที่ยวคือการไปเรียนรู้ประสบการณ์จริง ที่หนังสือ หรือโรงเรียนให้ไม่ได้ การได้ดมกลิ่นสายลม สัมผัสแสงแดด เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น พบปะผู้คนต่างถิ่น ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา คือการเรียนรู้โลก และการเรียนรู้โลกคือการเรียนรู้ตัวเอง

สำหรับอ้อยหวานแล้ว ไม่มีวิธีใดในการท่องไปเรียนรู้โลกและตัวเอง ที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยว ขอย้ำ อีกที...ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยวอีกแล้ว อ้อ.. แต่ยังมีวิธีที่ดีพอๆ กัน คือการเดินเที่ยว อ้อยหวานอ่านบล็อกของคู่ออสเตรเลียที่ชอบเดินเที่ยวทั่วฝรั่งเศส อ่านบล็อกของเขาได้ ที่นี่และเคยผ่านตากับบางคนที่เดินทางทั่วยุโรบบนม้า! โหสุดยอดเลย!

 

Photo:

หลายคนบ่นว่าอากาศเมืองไทยร้อน ปั่นจักรยานก็แย่นะสิ ขอบอกว่าไม่แย่ ทำมาแล้ว หลายครั้งนับไม่ถ้วน ด้วยการออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมพระอาทิตย์ ดวงไฟต่างๆ ที่ศาลหลักเมืองนครศรีฯ ยังไม่ดับเลย เช้าๆ อากาศดี สดชื่น แสงสีก็สวยด้วยสำหรับการถ่ายรูป

 

Photo:

ปั่นเลยไปที่อื่นก่อน แล้วย้อนกลับมาถ่ายรูปที่ศาลหลักเมืองอีกครั้ง แม้วันนั้นฝนตกนิดหน่อย คนปั่นจักรยานก็ยังไม่ถอยเลย เรียกว่า ‘อิน’ แล้ว ก็ ‘อิน’ เลย

อ่านประวัติศาลหลักเมืองนครโดยละเอียดได้ ที่นี่

 

Photo:

ถูกใจกับกระถางธูปด้านหลังศาลหลักเมือง มีพระราหูอมจันทร์อยู่สามตน สวยแปลกตามาก

 

Photo:

ออกจากบ้านไปไม่ไกลก็เจอสวนแล้ว เมืองคอนนี้ดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีสวนยาง มีสวนมังคุด และอื่นๆ อีกมากมาย

อ้อยหวานเคยเขียนเล่าในบล็อกก่อนโน้นว่า คุ้นเคยกะยางพารามาตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพราะตาและพ่อต่างทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวมากับยางพารา เจอสวนยางทีไรก็ต้องหยุดชมทุกครั้ง

 

Photo:

คราวนี้มีนางแบบด้วย อ้อยหวานขออนุญาติถ่ายรูปป้า ก็เลยได้ยิ้มหวานเจี้ยบมาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมทำงานกันอย่างมีความสุขนะ (ยิ้มป้าบอก)

 

Photo:

เก็บรูปการตัดยางหรือกรีดยางมาให้แม่ (อดีตผู้รู้เมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว) ดู แม่บอกว่าโอ้เดี๋ยวนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก วิวัฒนาการยางพาราก้าวล้ำนำหน้าอย่างกับไอแพดเลย คงเป็นยางพันธ์ใหม่ที่กรีดตั้งแต่อายุน้อย ในยามสาย แม่ว่าอย่างงั้น เพราะแต่ก่อนต้องตื่นกันตั้งแต่ยามสองยามสามมากรีดยาง พอสายก็เก็บน้ำยางกันแล้ว นี่หกโมงเช้าป้าเพิ่งแต่งตัวสวยมาทำงาน ยางพาราก้าวไปไกลจริงๆ

 

Photo:

ทุกเช้าที่ออกไปโต๋เต๋บนจักรยาน อ้อยหวานจะสวนทางกับชาย (ขอย้ำ ‘ชาย’ เพราะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำอย่างนี้) บนรถมอเตอร์ไซด์ มือเดียวขับรถ อีกมือหนึ่งถือกรงนก (อย่างทะนุถนอม) สวนทางกะอ้อยหวานไปหลายคัน อย่างนี้ต้องตามไปดู แล้วรู้ว่าโก๋เขานัดกันที่คาเฟ่นก เก๋ไหม?

 

Photo:

นุ่งสโร่ง ขี่มอเตอร์ไซด์ ถือกรงนกหัวจุก เปิดตำราโก๋เมืองคอน

หนุ่มๆ ก็เม้าส์กันไป ส่วนนกๆ ก็ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวไม่แพ้กัน

 

Photo:

อีกมุมหนึ่งของเมืองคอน อ้อยหวานเคยพามาแล้วในบล็อกเก่าเก็บ แต่อยากให้ชมอีก ‘ปากนคร’ นี้มาบ่อย เพราะปั่นสิบสองกิโลเมตรจากบ้าน ไปกลับยี่สิบสี่กิโล กำลังพอเหมาะ ได้เหงื่อดี วิวสวย บรรยากาศสงบ สุดปลายปากนครจะมีศาลาหลวงปู่ทวด และสะพานตัวที (T) ที่ทอดตัวยาวออกไปในทะเล

 

Photo:

ยามเช้าสีสันสวยสุดใจ มีสีชมพูนิดๆ

 

Photo:

อีกด้านหนึ่งมีนักปั่นจองกันเต็ม

 

Photo:

ปั่นกันมาจากในตัวเมือง แล้วปั่นกลับ.. สนุกกว่าขี่มอเยอร์ไซด์อีกนะ

 

Photo:

รูปนี้พยายามทำให้เป็นรูปหัวใจพระอาทิตย์ แต่มีมือเดียว อีกมือถือกล้องถ่ายรูป เลยมีมีคนบอกว่าเหมือนปลาวาฬกระโดดขึ้นมางับพระอาทิตย์ ไม่รู้ดูกันยังไง!!

 

Photo:

กลับมาที่ลานวัดพระธาตุนครศรีธรรมราชกันอีกครั้ง เพราะอยากบอกข่าวงานใหม่ล่าสุด ถนนคนเดินที่มีชื่อเก๋ว่า ‘หลาดหน้าพระธาตุ’

 

Photo:

เอารูปที่น้องส่งมา ลงให้ดู ว่าสนุกสนาน น่าสนใจแค่ไหน

 

Photo:

ด้วยสโลแกน “ ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม”

 

Photo:

หลาดหน้าพระธาตุจัดขึ้นทุกวันเสาร์ 16.00-21.00 น. อย่าพลาดชม หากแวะไปที่เมืองคอน

 

Photo:

ไหว้พระเสร็จก็เดินชมตลาดต่อ ขอบอกว่าตอนนี้องค์พระธาตุมีโครงเหล็กล้อมอีกแล้ว! เป็นเพราะเหตุอันใด อ้อยหวานหารู้ไม่ แต่ขอจบบล็อกนี้ เพียงนี้แหละ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 


สู่อ้อมกอดของขุนเขาที่บ้านคีรีวง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

นอกจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือพระธาตุเมืองคอนแล้ว ของดีของนครศรีธรรมราชยังมีอีกมากมาย วันนี้อ้อยหวานเอาสถานที่ดี้ดีอีกแห่งมาให้เพื่อนๆ ชมกัน หลายคนคงร้องบอกว่า ไปมาแล้วจ้า ก็วันเกิดเว็ปที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ก็จัดกันสดๆ ที่คีรีวง แต่รีวิวของอ้อยหวานก็จะไม่เหมือนใคร เพราะจะเป็นรีวิวเที่ยวคีรีวงกับสองล้อ ที่ภาษาใต้เรียกว่า รถถีบ เอ้ามาเร็วๆ มาถีบรถถีบสู่อ้อมกอดของขุนเขาที่คีรีวงกัน

 

วันนี้เป็นวันแรกในรอบสองอาทิตย์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วฟ้าใสไร้ฝน อ้อยหวานเลยลั่นล้าชวนคุณผู้ชายที่เพิ่งมาถึงเมืองไทย ไปเราไปปั่นรถถีบจากบ้านที่ท่าวัง อำเภอเมืองนครศรี ไปบ้านคีรีวง 25 กิโลเมตร และปั่นเที่ยว+หลงที่คีรีวงกันอีก 6-7 กิโล

 

จากนครศรีไปปากทางบ้านคีรีวงต้องปั่นบนถนนใหญ่ เช้าวันเสาร์รถไม่มากนัก แต่ก็ไม่มีวิวให้ถ่ายรูป แต่จากถนนใหญ่ตรงปากทางเข้าสู่บ้านคีรีวง (ทางเข้าข้างหลวงพ่อทวด) เป็นเส้นทางที่สวยมาก เหมือนค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่อ้อมกอดของขุนเขาจริงๆ เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกับว่าจะพาเราสู่แดนหิมพานต์ ไปกับจักรยานเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้

เป็นเส้นทางสิบกิโลเมตรที่สวยมากมาย

 

ข้อมูลบ้านคีรีวง จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

แหล่งอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย รางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน  เป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ตั้งอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตสุขสงบแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทำสวน โดยทำสวนแบบผสมผสาน ที่เรียกว่า สวนสมรม ปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิดคละกันในสวนเดียวกัน เช่น สะตอ มังคุด ทุเรียน หมาก พลู ฯลฯ  ภายในชุมชนมีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าที่ระลึกขึ้นชื่อหลากชนิด เช่น ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ สบู่สมุนไพรเปลือกมังคุด  ทุเรียนกวน ฯลฯ

 

นักท่องเที่ยวสามารถศึกษา เรียนรู้ ดูงาน ชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ พักแบบโฮมสเตย์ หรือเลือกพักรีสอร์ท ติดธารน้ำตกได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูผลไม้ ระหว่างเดือน กรกฎาคม – กันยายน จะได้ลิ้มรสผลไม้สดๆ นอกจากนี้มีบริการเดินป่าศึกษาธรรมชาติสู่ยอดเขาหลวงสำหรับ  ผู้ที่หลงใหลธรรมชาติชอบผจญภัย สอบถามข้อมูลติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านคีรีวง โทร.และ  0-7553-3370 และ 0-7553-3113

ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไชด์ของบ้านคีรีวงได้ที่นี่http://www.kiriwonggroup.com/

 

ในอ้อมกอดของธรรมชาติ เสียดายที่อ้อยหวานไม่ได้เตรียมตัวไปเล่นน้ำ ไปถึงเห็นน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาแล้วอยากลงแช่บ้าง

 

เขียวขจี

 

เล่นน้ำกันสนุกจริงๆ

 

เขาลุยได้

 

เราลุยบ้าง แต่รถไม่แรงอย่างเขา

 

สำหรับคนที่ต้องการปั่นจักรยานเล่นรอบๆ บ้านคีรีวง ก็ทำได้ ตรงไปเลยที่บ้านนายทั่ง

 

ไร่สวนส่วนของบ้านคีรีวงจะเป็นแบบสวนสมรม โดยมีพืชหลักคือมังคุด เราตามหามังคุดที่คิดว่าอาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง

 

บ้านคีรีวงมีธรรมชาติเกึอบทุกอย่างให้ไปค้นหา นอกจากสวนมังคุดที่เป็นพืชหลักแล้ว ก็ยังมีสวนปาล์มอีกด้วย

 

เราสองคนปั่นไปเรื่อยตามใจอยาก เส้นทางส่วนใหญ่มีต้นไม้ร่มครึ้ม

 

นอกจากธรรมชาติที่สวยงดงามแล้ว บ้านคีรีวงยังมีสินค้าจากธรรมชาติและสินค้าทำมือมากมาย หลากหลาย

 

ไว้ให้เลือกซื้อ เลือกช็อป

 

อย่าลืมแวะมาให้ขุนเขาและธรรมชาติโอบกอดที่บ้านคีรีวงกันนะค่ะ มาสูดอากาศดี้ดี นั่งฟังสายน้ำไหล หรือปั่นจักรยานเที่ยว ครั้งเดียวไม่เคยพอ แล้วใจจะถวิลหาขุนเขาอยู่ร่ำไป

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

 

ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง มันปิ้ง ปิ้ง จริงๆ นะ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

มีคนสนใจสอบถามอ้อยหวานมาว่าปั่นจักรยานเที่ยวจะเริ่มต้นยังไง ทำไรดี คำตอบคือ ไม่ต้องคิดมาก อยากลองก็คว้าจักรยานเล่นลิ่วออกไปเลย มีจักรยานอะไรก็เอาคันนั้นออกไป ทัวร์ริ่งได้ทุกแบบ ไม่จำเพาะเจาะจง ไม่ต้องเก๋เท่ห์ระเบิด ยังไม่มีจักรยานก็เลียวซ้ายแลขวา ขอยืมเพื่อนไปก่อน ยิ่งถ้าเพื่อนมีหลายคันก็ขอยืมลองปั่นไปให้หมดทุกคัน ไม่ต้องสนใจตาเขียวๆ ของเพื่อน (แต่ต้องเป็นเพื่อนรักนะเออ) เริ่มแรกก็ปั่นเที่ยวแถวบ้าน จากนั้นก็ไปไกลหน่อย เช่นไปเยี่ยมญาติ ไปหาของกินต่างถิ่น หรือหาเรื่องไปทุกที่ พอมีประสบการณ์สักนิดแล้วจะคิดได้เอง ไว้วันหลังอ้อยหวานจะจัดหนักไปเลย หลักสูตรว่าด้วยการทัวร์ริ่งกับจักรยาน

 

ในส่วนตัวของอ้อยหวานชอบจักรยานพับได้ เพราะสะดวกในการขนย้ายไปตามที่ต่างๆ บ่อยครั้งเราต้องแพ็คจักรยานขึ้นเครื่องบิน นั่งรถไฟ ลงเรือ ไปปั่นเที่ยวที่อื่นที่ไกลบ้านออกไป ขอบอกว่าปั่นได้ดีเท่าๆ จักรยานธรรมดา ล้อเล็กๆ ของจักรยานพับได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดในการปั่นเที่ยว ในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านไป อ้อยหวานปั่นเที่ยวรวมระยะทาง 2500 กว่ากิโลเมตร รวมทั้งทริปเที่ยวไทยสองทริป และทริปเที่ยวในแคนนาดา จักรยานพับได้ทั้งสองคัน สองยี่ห้อ ของอ้อยหวานไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีงอแง

 

ทัวร์ริ่งกับจักรยานทริบนี้อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรกว่าเน้นที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่จุดเริ่มต้นทริปคือนครศรีธรรมราช อ้อยหวานกับคุณผู้ชายที่บ้านได้เริ่มซ้อมปั่นกันด้วยทริปสู่อ้อมกอดของขุมเขาที่บ้านคีรีวงพอออกทริปทางไกลจริงๆ เราก็ไม่อยากปั่นซ้ำรอยเดิม และมีน้องอาสาขับรถไปส่งแถวๆ คีรีวง กะกันว่าจะเริ่มต้นทริปโดยการปั่นขื้นเขาผ่านลานสกา แล้วเลี้ยวซ้ายอ้อมเขาไปทุ่งสง ซื่งถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางหนื่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เช้าวันนั้นฝนตกปรอยๆ แต่เช้า ไม่เป็นการดีสำหรับปั่นขึ้นเขา (ข้ออ้างของคุณผู้ชาย) ว่าแล้วเราก็ไปเริ่มสตาร์ทกันบนเขาเลยดีกว่า ง่ายกว่ามาก ว่างั้นเถอะ โอกาสหน้ายังมีและลานสกาก็ไม่หนีไปไหน ติดหนี้ไว้ก่อนนะจ้ะ จะต้องมีการใช้หนี้นี้แน่นอน!

 

แต่กลุ่มนักปั่นในรูปข้างบนเก่งจริงๆ ไม่ติดหนี้ลานสกาเลย ทยอยปั่นขึ้นเขากันท่ามกลางสายฝนปรอยๆ แต่ละคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า เพราะได้รับรางวัลจากความใฝ่ฝันและความมุ่งมั่นของตนเอง จุดเริ่มต้นของอ้อยหวานและคุณผู้ชายคือจุดพักของนักปั่นกลุ่มนี้ เป็นความบังเอิญแท้ๆ เราเลยได้รูปหมู่ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์

 

แต่การไปเริ่มที่บนเขาก็ไม่ใช่ว่าเส้นทางตลอดสายจะลงเขา มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ จริงๆ แล้วมันขื้นเนินลงเนินตลอด แต่เนินโหดสุดคือเนินที่เรานั่งรถขื้นมา

คุณผู้ชายหาถนนสายเล็กได้จากแผนที่กูเกิลเราต้องใช้ GPS จากโทรศัพท์มือถือช่วยตลอด เพราะซอกแซก วกวน หากไม่มี GPS ช่วยก็คงต้องหลงอยู่ในป่าสวนยางแน่นอน

 

เส้นทางเลี้ยวซ้ายขวา ผ่านชุมชน ผู้คนมองมายังเราด้วยสายตาที่แปลกใจและมีคำถาม ทำอะไร มาจากไหน จะไปไหน ก็จักรยานสองคันที่มีกระเป๋าสีเหลืองใบโตห้อยแขวนอยู่สองข้าง ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ ผ่านเขตชุมชนมาได้หน่อยถนนก็เปลี่ยนมาเป็นทางดินที่กำลังเละได้ที่ เพราะสายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่กลางดึก ถึงเช้าก็ยังปรอยๆ ไม่ถึงกับกระหน่ำลงมา แต่เป็นละอองฝอยอยู่ทั่วไป...

ทำให้มีสายเมฆสายหมอกคลอเคลียหยอกล้อกับขุมเขา เราสองคนเห็นพ้องกันว่า ช่างเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง ต้องมาดูเองกับสองตา เพราะของจริงสวยกว่าในภาพมากมาย

 

เทือกเขานครศรีธรรมราช ตั้งเป็นแกนกลางของคาบสมุทรไทย (ภาคใต้ตอนกลาง) ทอดตัวในแนวเหนือ - ใต้ โดยเริ่มจากเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพงัน เกาะสมุย เกาะกะเต็น มีบางส่วนที่จมลงไปในทะเล เรียกส่วนนี้ว่า ช่องแคบสมุย โดยมาโผล่ขึ้นที่อำเภอดอนสัก เขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีและอำเภอขนอม เขตจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง โดยเทือกเขาที่ผ่านเขตจังหวัดพัทลุงและตรังถือเป็นที่กั้นเขตแดนระหว่าง 2 จังหวัดนี้ มักเรียกอีกชื่อว่า "เทือกเขาบรรทัด"จากนั้น แนวเทือกเขายาวลงไปยังเขตแดนระหว่างจังหวัดสตูลกับประเทศมาเลเซีย โดยบรรจบกับเทือกเขาสันกาลาคีรีที่ภูเขาซีนา จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทยกับมาเลเซีย

แนวเทือกเขานครศรีธรรมราชนับเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยาวที่สุดในภาคใต้ โดยมียอดเขาหลวงซึ่งมีความสูงประมาณ 2,435 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาและสูงที่สุดในภาคใต้ ตั้งอยู่อยู่ในเขตอำเภอลานสะกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เปรียบเสมือนเป็นหลังคาสีเขียวของภาคใต้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ขอบคุณวิกิพีเดีย

 

เราซอกแซกขึ้นลงเนินเขา ผ่านสวนยางมากมาย เพราะสวนยางนั้นฮิตติดอันดับหนึ่งของแถบนี้ อ้อยหวานชื่นชอบสวนยางเป็นพิเศษ และคิดว่าสวนยางสวยอย่างมีเสน่ห์และมีศิลป์ ปั่นจักรยานท่ามกลางป่ายางเป็นสิ่งที่วิเศษยิ่ง เหมือนกับรวมเอาการชมธรรมชาติและงานศิลปะเข้าด้วยกัน ละอองฝนเติมแต่งบรรยากาศให้เหมือนกับอยู่ในป่าลึกลับ อ้อยหวานหยุดอยู่ตรงนี้เนิ่นนาน รั้งรอ เก็บภาพตรงหน้า นึกถึงคนที่ตื่นเช้ามาทำงานหรือทำมาหากินในสวนยาง ขอบอกว่าช่างเป็นที่ทำงานที่สวยจริงๆ

 

อ้อยหวานคุ้นเคยกับยางพาราและสวนยางมาตั้งแต่เกิด ทั้งพ่อและตาทำงานเลี้ยงครอบครัวกับยางพารามาช้านาน แม้พ่อจะเลิกลามานานแล้ว แต่เรื่องราวและกลิ่นยางยังติดอยู่ในความทรงจำ ภาพที่แม่เคยเล่าตอนติดตามตาไปดูแลสวนยาง หวนกลับมาวิบวิบวับวับในความทรงจำ เลือนลางดุจภาพในสายหมอก แต่แจ่มชัดในความทรงจำ อีกทั้งภาพที่เคยวิ่งเล่นกับน้องๆ ท่ามกลางกองแผ่นยางสีคล้ำและมีกลิ่นฉุนแรง มาปรากฏราวกับภาพฝัน เลือนลางและแจ่มชัดสลับไปมา ยืนงงงันต้องมนต์สวนยางอยู่นานจนคนรอต้องร้องเรียก เมื่อเก็บภาพความทรงจำไว้หนำใจแล้ว สองล้อก็มุ่งหน้าไปต่อ

 

เพื่อไปหยุดดื่มด่ำกับภาพฝันริมทางอีกเป็นระยะมากับสองล้อเท่านั้นที่จะทำได้เยี่ยงนี้

 

อ้อยหวานขอแนบแผนที่เส้นทางปั่นของเรามาด้วย เผื่อมีคนอยากตามรอย แนะนำเลยเส้นทางนี้สวยมากมาย แถมรถน้อยด้วย จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือทุ่งสง ซึ่งอยู่คนละฝั่งเขากับนครศรีธรรมราชและลานสกา เส้นทางจืงโอบกอดภูเขาหรือถูกภูเขาโอบกอดอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า แบร์ ฮัก (bear hug) อ้อมกอดหมีที่รัดรึง กระชับแน่น และอบอุ่น

 

เส้นทางนี้มีน้ำตกให้หยุดแวะชมอยู่หลายแห่ง แต่ขอบอกว่าแต่ละแห่งต้องปั่นขึ้นเขาไปหลายกิโล เราปั่นเข้าชมที่เดียว แล้วอ้อยหวานไปเลื่อนล้มเกือบตกลงไปในน้ำให้หวาดเสียวเล่น น้ำในน้ำตกค่อนข้างแรงเพราะฝนตกมาหลายวัน ไปถึง โรงแรมชิโนเฮ้าส์ทุ่งสงก็มอมแมมทั้งคนและจักรยาน

 

ดอกไม้ริมทางของวันนี้

 

ภาพเอ็คชั่นของวันนี้

โดนเจ้าถิ่นไล่ตั้งแต่วันแรกเลย

 

โปรดติดตามปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป

 

อ่านปั่นเที่ยวไทยตอนที่แล้วได้ที่นี่

รางวัลแด่คนช่างฝัน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของอ้อยหวาน แม้จะเป็นเด็กที่จากบ้านไปเรียนหนังสือที่เมืองกรุงตั้งแต่เล็กๆ แต่นครก็ยังเป็นสถานที่ที่อ้อยหวานเรียกว่าบ้าน

บ้านในภาษาอังกฤษมีใช้อยู่สองคำ คือ เฮ้าส์ (house) และ โฮม (home) แปลง่ายๆ ได้ว่า เฮ้าส์ (house) คือบ้านที่อยู่อาศัย โฮม (home) คือ บ้านใจ ตามคำคมยอดนิยมของฝรั่งที่ว่า "Home Is Where Your Heart Is"

อ้อยหวานสามารถเรียกนครศรีฯ ว่า มาย โฮม ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นบ้านใจที่มีพ่อแม่รออยู่

ตอนเด็กๆ เวลานั่งรถไฟกลับบ้านซึ่งใช้เวลายาวนานมาก ออกจากกรุงเทพตอนบ่าย มาถึงนครเกือบเที่ยงของวันถัดมา เมื่อรถไฟวิ่งผ่านวัดพระธาตุในระยะไกล หัวใจน้อยๆ พองโต

..อา..ถึงบ้านแล้ว..  น้ำตาเอ่อล้นท่วมสองตา

ใจผูกพันไม่เคยเลือน กลับบ้านทุกคราก็ต้องแวะไปเยือน คราวนี้อยู่บ้านนานหน่อย ก็ไปบ่อย ปั่นจักรยานไปแต่เช้า ไปนั่งเงียบๆ ชมพระธาตุ ดูใบไม้ นับเม็ดทราย ชมนก ชมไม้ บ้างก็สวดมนต์ ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง องค์พระธาตุก็มีโครงไม้ไผ่ที่หุ้มมาเกือบสองปี จนวันสุดท้ายที่ปั่นจักรยานออกไปชม อ้อยหวานก็ต้องร้องว้าววว พระธาตุสวยจัง โครงไม้ได้อันตรธาน หายไปจนหมดสิ้น เหลือแต่องค์พระธาตุอันงดงาม  แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เก็บภาพสวยมาได้ภาพเดียว คือภาพในบล็อกที่แล้วสามสี่วันมานี้ อ้อยหวานเกิดอาการคิดถึงบ้านขึ้นมา เลยได้นั่งวาดภาพสีน้ำตามแบบฉบับของอ้อยหวาน คือแบบหวานเย็น รูปหนึ่งใช้เวลาหลายวัน พระธาตุในดวงใจอ้อยหวาน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็รำลึกถึงอยู่เสมอ

 

Photo:

มีอยู่เช้าหนึ่ง อ้อยหวานแวะไปที่พระธาตุเช่นทุกครั้ง แต่เมื่อเดินผ่านประตูวัดเข้าไป ก็ต้องตกใจ เกิดอะไรขึ้นทำไมคนเต็มวัดเลย! ที่จอดรถของวัดก็มีรถทัวร์คันใหญ่อยู่เต็มเช่นกัน ต่อมาถึงได้รู้ว่าเป็นผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้าน เขามาแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน

 

Photo:

ขอลอกข้อเขียนจากมติชน ออนไลน์ มาให้อ่านกัน...

...นายเฉิน กล่าวผ่านล่ามว่า ชาวมาเลเซียที่เดินทางมาครั้งนี้ จะมีทั้งเชื้อสายไทยและเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาพุทธ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศมาเลเซีย โดยทุกคนมีความเชื่อว่า จะต้องเดินทางมากราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชปีละ 1 ครั้ง จนครบ 9 ปี หลังตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี จะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีโชคลาภ และชีวิตครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ในขณะที่บางครอบครัวที่บรรพบุรุษเป็นคนไทยได้นำบุตรหลานมาบรรพชาอุปสมบทที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

“บางคนมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งในแต่ละปีจะเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 20 คัน รถบัส สำหรับปีนี้ จะมีทยอยเดินทางมาทุกเสาร์ อาทิตย์ โดยแวะที่วัดพระมหาธาตุฯ ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง จากนั้นแวะรับประทานอาหาร ซื้อเครื่องประดับและสินค้าหัตถกรรม เดินทางกลับไปพักค้างคืนที่ อ.หาดใหญ่ หรือในตัวเมืองสงขลา” นายเฉินกล่าวผ่านล่าม

ฉบับเต็มอ่านได้ ที่นี่

ขอบคุณค่ะ

 

Photo:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุหมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามา เย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน

ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 

Photo:

แขกต่างชาติเขาตระเตรียมแห่ผ้าขึ้นธาตุกัน คนปั่นจักรยานเลยต้องเดินเก็บเศษขยะหนังสือพิมพ์มาเลย์ฉบับภาษาจีน ที่แขกเอามาใช้ลองนั่งฟังพระสวดก่อนที่จะปลิวว่อนไปทั่วลานวัด

 

Photo:

นอกจากพระธาตุแล้ว นครศรีฯ ยังมี ‘อันซีน ไทยแลนด์’ อีกด้วยนะจ้ะ

เมื่อพี่สาวสุดที่รักลงภาพโบสถ์หลังเก่าที่มีเถาวัลย์เกาะอยู่เต็ม สวยแปลกจนอ้อยหวานต้องตะโกนถามไปว่า “ที่นั่นที่ใด พาน้องไปให้เห็นกะตาได้ไหม”

 

Photo:

แล้วเช้าวันหนึ่งก็มีคนเห็นสองจักรยานโลดลิ่ว ผ่านดินแดนที่ห่างไกล (แต่ใกล้นครฯ นิดเดียว) ที่อ้อยหวานบอกว่า ‘ดินแดนที่ห่างไกล’ นั้นหมายถึง ‘ห่างไกลจากผู้คนและความวุ่นวายจอแจ’ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Off The Beaten Track’ (มาแล้ว..ภาษาอังกฤษ วันละคำ!!!)

 

Photo:

‘Off The Beaten Track’ จริงๆ หนูช๊อบ..ชอบ และการปั่นจักรยานเที่ยวชมสถานที่เช่นนี้ เป็นการเคารพสถานที่นั้นๆ อย่างจริงใจ การไปชมสถานที่ที่เงียบสงบ เราก็อย่าได้ขนรถรา ตะบึงแล่นไป จนฝุ่นกระจุย ความสงบเงียบกระจายผู้คนและนกกาผวาดผวา

ขอร้องอย่าทำ!!!

 

Photo:

วัดไพศาลสถิตเป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากพยูน อำเภอเมือง นครศรีฯ จดไว้เลย...

 

Photo:

ธรรมชาติเรียกคืน

 

Photo:

เก่าแก่ แต่..งดงามตามธรรมชาติ

 

Photo:

ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

 

Photo:

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในโบสถ์ เป็นภาพที่งดงามมาก สวย สงบ และ งดงาม

 

Photo:

เก่า กับ ใหม่

อ้อยหวานขอขอบคุณพี่สาวที่นำทางไปชม ‘อันซีน ไทยแลนด์’ ในครั้งนี้ ขอบคุณมากค่ะ แล้วพบเจออะไรอีก ก็อย่าลืมกระซิบบอกกันด้วยนะ!

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

 

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

 

อ่านบล็อก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรืพระธาตุเมืองคอน ของอ้อยหวานได้ที่นี่

วันนี้ที่นครศรีธรรมราช

ฉันรัก..เมืองคอน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

กลับบ้านเกิดเมืองคอนคราวนี้ อ้อยหวานได้ปั่นจักรยานภายในตัวอำเภอเสียจนเรียกว่าปรุ เข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ เป็นว่าเล่น เพราะกลับไปนอนเล่นที่บ้านเป็นเดือน และแม่สั่งนักสั่งหนาว่า ‘อย่าไปไหนไกล’ จนกว่าจะมีเพื่อนร่วมปั่น!

เช้าวันแรกที่บ้านเกิด สองล้อคู่ใจที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะอ้อยหวานซื้อหามาหลายปีแล้วทิ้งไว้ที่บ้าน กลับมาจะได้มีจักรยานปั่นเที่ยว เมื่อเปิดประตูแล้วทะยานออกไป อ้อยหวานรู้สึกเลยว่า จักรยานมันดีใจ ล้อหมุนเริงร่า ระริก ระรี้ ขึ้นมาทีเดียว ใจนึกสงสารมัน (จักรยาน) ก็เลยสัญญากับมันว่า กลับบ้านมาคราวนี้จะพาเที่ยวทุกเช้าให้หนำใจไปเลย

เช้าแรกก็ต้องแวะมาที่นี่ มายกมือไหว้พระธาตุ อธิษฐานของให้เดินทางปลอดภัย ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน นั่งรถ ขึ้นเครื่องบิน

ดวงตะวันขึ้นจากทางหน้าวัด คนที่อยากถ่ายภาพพระธาตุกับพระทิตย์ขึ้นยามเช้า ก็ต้องมาเก็บภาพหลังวัด เสียดายที่มีสายไฟฟ้ารกสายตา ถ้าเอาฝังใต้ดินคงจะเป็นการดี

 

Photo:

หลังจากไหว้พระธาตุแล้ว อ้อยหวานก็หมุนล้อไปตามซอกซอยหลังพระธาต ถิ่นที่ตัวเองชื่นชอบและมาบ่อยๆ เมื่อหลุดออกจากซอยมาที่ถนนตัดใหม่หรือถนนเลียบทางรถไฟ ก็ต้องร้องว้าว!!! เส้นทางจักรยานสีเขียวสวยงดงาม สายแรกของนครศรีธรรมราชเลยนะเนี่ย ดีใจจนหน้าบาน ไม่ได้การแล้ว อย่างนี้ต้องลองปั่นทดสอบเส้นทางกันสักหน่อย

 

Photo:

เส้นทางสีเขียวนี้มีระยะทางประมาณ 6.3 กิโลเมตร อ้อยหวานเลยปั่นไปกลับเสียเลย เริ่มแรกก็ไปได้สวย แต่….

 

Photo:

ชะอุ้ย ขอโทษที!!

กระผมอ่านหนังสือไม่ออก

 

Photo:

@@##**##$$%%

งงเลยละเธอ

 

Photo:

ภายในเช้าเดียวกันนี้ นับได้หกคัน พอดิบพอดี

ยัง ยังไม่หมด มีรถมอเยอร์ไซด์มาวิ่งบนทางจักรยานหลายคันด้วย แต่ถ่ายรูปไม่ทัน ทั้งๆ ที่เขามีทำทางรถมอเตอร์ไซด์ไว้ให้ด้วย แถมมีวิ่งสวนทางมาบนทางจักรยานอีกด้วย เห็นแล้วงง!

***ตามความคิดเห็นส่วนตัวของอ้อยหวาน ...ประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่นับกันที่ประชาชนมีโทรศัพท์มือถือใช้กันทุกคน มีไอโฟนใช้กันมากมาย เด็กๆ มีคอมเล่นกันกี่คน ในประเทศมีคลื่นโทรศัพท์มือถือ  3G, 4G, 5G หรือ เอาไปเลย 10G มีอะไรต่อมิอะไรทุกอย่างที่เมืองนอกเขามีกัน สิ่งเหล่านั้นมันเป็นความเจริญทางวัตถุ ที่ไม่เสริมสร้างความเจริญทางจิตใจ หรือความเจริญทางการดำรงวิถีชีวิตได้เลย

...ประเทศที่เจริญแล้ว เขานับกันที่ ประชาชนมีระเบียบ เคารพต่อกฎเกณฑ์ เคารพกฎกติกาของสังคมและสิทธิผู้อื่น มากแค่ไหน ต่างหากเล่า

 

Photo:

บ่นไปก็ไลพ์บอย ไปเดินตลาดกันดีกว่า เช้าวันหนึ่งอ้อยหวานออกปั่นเช่นเคย ไปทางใหม่ที่ไม่เคยไป แล้วไปจ๊ะเอ๋กับตลาดเล็กๆ ที่จุเต็มด้วยของกินแบบบ้านๆ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดนัด เพราะอ้อยหวานแวะไปวันอื่นนั้นไม่มีตลาดอยู่เลย

 

Photo:

หมี่ผัดแบบเมืองคอน ใครได้ลองแล้วจะติดใจ แต่ขอบอกนิดนึงว่า อย่าใช้กล่องโฟมเพราะหมอเขาเตือนกันให้แซ๊ด

 

Photo:

แพทย์เตือน! กล่องโฟมอันตราย ต้นเหตุมะเร็ง

ต้นเหตุการเกิดมะเร็งที่สำคัญนั้นเกิดจากอาหารต่างๆ ที่ถูกบรรจุใส่ไว้ในกล่องโฟม ซึ่งมี “สารสไตรีน (Styrene)” ซ่อนอยู่ ต่อให้การใช้กล่องโฟมสะดวกสบายแค่ไหน ก็ต้องแลกกับโรคมะเร็งที่พร้อมจะเข้าสู่ร่างกายได้ตลอดเวลา โดยจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายที่ละเล็กทีละน้อย ค่ยอๆ สะสมจนเป็นโรคร้ายในที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

Photo:

อย่างนี้ต้องยกนิ้วให้ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ไม่มีโทษต่อธรรมชาติ

 

Photo:

ขนมปะดา ขนมโบราณเมืองคอน ที่ดูเหมือนขนมโดนัทอันเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็ก เพราะไส้ข้างในมีรสเผ็ดนิดๆ อร่อยเหาะเลย แต่อย่ากินมาก เพราะของทอดกินมากไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน

ขอลอกจากมติชน (อีกแล้ว) มาให้อ่านเพิ่มเติม

ขนมปะดา ขนมโบราณคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กับขนมโดนัทของฝรั่ง แต่เป็นโดนัทที่มีไส้

….จาก คำบอกเล่าของคนเมืองนคร เขาบอกว่า เป็นขนมสูตรโบราณของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ส่วนมากมักจะทำในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือประเพณีสำคัญของชาวไทยมุสลิม ที่มักจะทำขนมพื้นบ้านชนิดนี้มาเลี้ยงแขก

ลักษณะ ของขนมจะทำจากแป้งข้าวเจ้า คลุกเคล้าผสมกับกล้วยน้ำว้าที่สุกงอม โดยนำแป้งมานวดกับกล้วยน้ำว้าจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนไส้ขนมจะประกอบด้วยสมุนไพรต่างๆ ได้แก่ ตะไคร้ หัวหอมแดง พริกไทย กระเทียม มะพร้าวขูด กะทิ กุ้งสด เกลือ และน้ำตาล นำมาบดส่วนผสมให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นก็นำไปผัดให้สุก

เวลาทำก็ นำแป้ง 2 ชิ้น มาประกบกัน โดยให้ไส้อยู่ตรงกลาง จากนั้นใช้นิ้วกดให้เป็นรู นำไปทอดในน้ำมันจนสุกมีสีเหลืองทอง ลักษณะขนมจะเหนียว นุ่ม ตัวแป้งมีความหวานและความหอมของกล้วยน้ำว้า ไส้รสเค็ม หวาน เจือเผ็ดเล็กๆ พอไม่ให้เลี่ยน หอมมะพร้าวและตะไคร้….

มีรายละเอียดอีกมากมาย หาอ่านได้ ที่นี่

ลูกกลมๆ ตรงกลางอ้อยหวานไม่แน่ใจว่าเป็นข้าวเหนียวทอดหรือไม่ ใครรู้บอกที ส่วนอีกถาดคิดว่าเป็นข้าวเม่าทอดที่ข้างในใส่กล้วยลูกเล็กๆ ทั้งลูก อีกอย่างที่ส่วนใหญ่จะขายพร้อมกันคือ จำปาดะทอด

 

Photo:

อีกสองสามวันต่อมา ได้ข่าวจากแม่ว่าเดี๋ยวนี้เมืองคอนมีตลาดนัดใหม่แล้วนะ! ไม่ได้การอ้อยหวานต้องปั่นจักรยานออกไปชมกันหน่อย ตลาดนัดใหม่นี้มีชื่อว่า ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

ก่อนอื่นอ้อยหวานขอยกเอาประวัติความเป็นมา ของชื่อต่างๆ ของเมืองนครศรีฯ ในสมัยโบราณ มาให้อ่านกัน

..ในอดีต มีชื่อเรียกดินแดนแถบนี้หลายชื่อ เช่น ในคัมภีร์มหานิเทศของอินเดีย ที่เขียนขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เรียกว่า "ตามพรลิงก์"หรืออาณาจักรตามพรลิงก์, บันทึกโบราณของเมืองจีนเรียก "เซี้ยะ-โท้ว (ถู-กวั่ว) ", "รักตะมฤติกา"ซึ่งล้วนหมายถึง "ดินแดนที่มีดินสีแดง", ประเทศตะวันตกนิยมเรียกกันมา จนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ว่า "ลิกอร์"สันนิษฐานว่าชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นผู้เรียกก่อน โดยเพี้ยนมาจากคำว่า "นคร"ส่วนชื่อ "นครศรีธรรมราช"มาจากพระนามของกษัตริย์ผู้ครองนครในอดีต มีพระนามว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช) มีความหมายว่า "นครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม"หรือ "เมืองแห่งพุทธธรรมของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่"

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพิเดีย

 

Photo:

‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’ กำหนดให้มีขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ที่ริมกำแพงเมืองเก่า ข้างสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ตลาดริมน้ำจุเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ส่วนใหญ่จะขายอาหาร

 

Photo:

สารพันของกิน

 

Photo:

ไข่ปลาตะเพียนต้มน้ำส้มโหนด (น้ำส้มสายชูที่หมักจากน้ำตาลหวานของตาลโตนด)

 

Photo:

ขนมหวานหลากหลายชนิดกับสาวน้อยหน้าหวาน

 

Photo:

หม้อและปิ่นโตเคลือบแบบโบราณ

 

Photo:

ซื้อแล้วนั่งทานริมคลอง  

 

Photo:

หรือจะมานั่งกินในสวนติดกัน แต่อย่าลืมเก็บขยะของตนเองไปทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อยก็แล้วกัน

 

Photo:

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรี การแสดงพื้นบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่าลืม! วันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน ผ่านมาแถวเมืองคอน แวะได้เลยที่  ‘ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์”’

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

Photo:

บล็อกนี้อ้อยหวานจะพาเพื่อนๆ ไปจักรยานปั่นเที่ยวเมืองคอนบ้านเกิดของอ้อยหวานกันต่อ เที่ยวตลอดเลยนะอ้อยหวาน ใครค่อนแคะก็ไม่รู้ แต่มันก็เป็นความจริง เพราะอ้อยหวานถือคติว่า การออกไปท่องเที่ยวคือการไปเรียนรู้ประสบการณ์จริง ที่หนังสือ หรือโรงเรียนให้ไม่ได้ การได้ดมกลิ่นสายลม สัมผัสแสงแดด เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น พบปะผู้คนต่างถิ่น ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา คือการเรียนรู้โลก และการเรียนรู้โลกคือการเรียนรู้ตัวเอง

สำหรับอ้อยหวานแล้ว ไม่มีวิธีใดในการท่องไปเรียนรู้โลกและตัวเอง ที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยว ขอย้ำ อีกที...ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยวอีกแล้ว อ้อ.. แต่ยังมีวิธีที่ดีพอๆ กัน คือการเดินเที่ยว อ้อยหวานอ่านบล็อกของคู่ออสเตรเลียที่ชอบเดินเที่ยวทั่วฝรั่งเศส อ่านบล็อกของเขาได้ ที่นี่และเคยผ่านตากับบางคนที่เดินทางทั่วยุโรบบนม้า! โหสุดยอดเลย!

 

Photo:

หลายคนบ่นว่าอากาศเมืองไทยร้อน ปั่นจักรยานก็แย่นะสิ ขอบอกว่าไม่แย่ ทำมาแล้ว หลายครั้งนับไม่ถ้วน ด้วยการออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมพระอาทิตย์ ดวงไฟต่างๆ ที่ศาลหลักเมืองนครศรีฯ ยังไม่ดับเลย เช้าๆ อากาศดี สดชื่น แสงสีก็สวยด้วยสำหรับการถ่ายรูป

 

Photo:

ปั่นเลยไปที่อื่นก่อน แล้วย้อนกลับมาถ่ายรูปที่ศาลหลักเมืองอีกครั้ง แม้วันนั้นฝนตกนิดหน่อย คนปั่นจักรยานก็ยังไม่ถอยเลย เรียกว่า ‘อิน’ แล้ว ก็ ‘อิน’ เลย

อ่านประวัติศาลหลักเมืองนครโดยละเอียดได้ ที่นี่

 

Photo:

ถูกใจกับกระถางธูปด้านหลังศาลหลักเมือง มีพระราหูอมจันทร์อยู่สามตน สวยแปลกตามาก

 

Photo:

ออกจากบ้านไปไม่ไกลก็เจอสวนแล้ว เมืองคอนนี้ดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีสวนยาง มีสวนมังคุด และอื่นๆ อีกมากมาย

อ้อยหวานเคยเขียนเล่าในบล็อกก่อนโน้นว่า คุ้นเคยกะยางพารามาตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพราะตาและพ่อต่างทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวมากับยางพารา เจอสวนยางทีไรก็ต้องหยุดชมทุกครั้ง

 

Photo:

คราวนี้มีนางแบบด้วย อ้อยหวานขออนุญาติถ่ายรูปป้า ก็เลยได้ยิ้มหวานเจี้ยบมาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมทำงานกันอย่างมีความสุขนะ (ยิ้มป้าบอก)

 

Photo:

เก็บรูปการตัดยางหรือกรีดยางมาให้แม่ (อดีตผู้รู้เมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว) ดู แม่บอกว่าโอ้เดี๋ยวนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก วิวัฒนาการยางพาราก้าวล้ำนำหน้าอย่างกับไอแพดเลย คงเป็นยางพันธ์ใหม่ที่กรีดตั้งแต่อายุน้อย ในยามสาย แม่ว่าอย่างงั้น เพราะแต่ก่อนต้องตื่นกันตั้งแต่ยามสองยามสามมากรีดยาง พอสายก็เก็บน้ำยางกันแล้ว นี่หกโมงเช้าป้าเพิ่งแต่งตัวสวยมาทำงาน ยางพาราก้าวไปไกลจริงๆ

 

Photo:

ทุกเช้าที่ออกไปโต๋เต๋บนจักรยาน อ้อยหวานจะสวนทางกับชาย (ขอย้ำ ‘ชาย’ เพราะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำอย่างนี้) บนรถมอเตอร์ไซด์ มือเดียวขับรถ อีกมือหนึ่งถือกรงนก (อย่างทะนุถนอม) สวนทางกะอ้อยหวานไปหลายคัน อย่างนี้ต้องตามไปดู แล้วรู้ว่าโก๋เขานัดกันที่คาเฟ่นก เก๋ไหม?

 

Photo:

นุ่งสโร่ง ขี่มอเตอร์ไซด์ ถือกรงนกหัวจุก เปิดตำราโก๋เมืองคอน

หนุ่มๆ ก็เม้าส์กันไป ส่วนนกๆ ก็ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวไม่แพ้กัน

 

Photo:

อีกมุมหนึ่งของเมืองคอน อ้อยหวานเคยพามาแล้วในบล็อกเก่าเก็บ แต่อยากให้ชมอีก ‘ปากนคร’ นี้มาบ่อย เพราะปั่นสิบสองกิโลเมตรจากบ้าน ไปกลับยี่สิบสี่กิโล กำลังพอเหมาะ ได้เหงื่อดี วิวสวย บรรยากาศสงบ สุดปลายปากนครจะมีศาลาหลวงปู่ทวด และสะพานตัวที (T) ที่ทอดตัวยาวออกไปในทะเล

 

Photo:

ยามเช้าสีสันสวยสุดใจ มีสีชมพูนิดๆ

 

Photo:

อีกด้านหนึ่งมีนักปั่นจองกันเต็ม

 

Photo:

ปั่นกันมาจากในตัวเมือง แล้วปั่นกลับ.. สนุกกว่าขี่มอเยอร์ไซด์อีกนะ

 

Photo:

รูปนี้พยายามทำให้เป็นรูปหัวใจพระอาทิตย์ แต่มีมือเดียว อีกมือถือกล้องถ่ายรูป เลยมีมีคนบอกว่าเหมือนปลาวาฬกระโดดขึ้นมางับพระอาทิตย์ ไม่รู้ดูกันยังไง!!

 

Photo:

กลับมาที่ลานวัดพระธาตุนครศรีธรรมราชกันอีกครั้ง เพราะอยากบอกข่าวงานใหม่ล่าสุด ถนนคนเดินที่มีชื่อเก๋ว่า ‘หลาดหน้าพระธาตุ’

 

Photo:

เอารูปที่น้องส่งมา ลงให้ดู ว่าสนุกสนาน น่าสนใจแค่ไหน

 

Photo:

ด้วยสโลแกน “ ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม”

 

Photo:

หลาดหน้าพระธาตุจัดขึ้นทุกวันเสาร์ 16.00-21.00 น. อย่าพลาดชม หากแวะไปที่เมืองคอน

 

Photo:

ไหว้พระเสร็จก็เดินชมตลาดต่อ ขอบอกว่าตอนนี้องค์พระธาตุมีโครงเหล็กล้อมอีกแล้ว! เป็นเพราะเหตุอันใด อ้อยหวานหารู้ไม่ แต่ขอจบบล็อกนี้ เพียงนี้แหละ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป

อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก

ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ก้าวเท้าเดิน..ตามรอยเวลา

สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

Viewing all 25 articles
Browse latest View live